GreedisGoods » Economics » กฎของอุปทาน คืออะไร? Law of Supply

กฎของอุปทาน คืออะไร? Law of Supply

by Kris Piroj
กฎของอุปทาน คือ อะไร Law of Supply คือ อุปทาน ความต้องการขาย

กฎของอุปทาน คืออะไร?

กฎของอุปทาน คือ แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างอุปทาน (Supply) กับระดับราคาสินค้า (Price) ที่มีทิศทางไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อราคายิ่งสูงงความต้องการขายของผู้ขายยิ่งสูงขึ้นตาม ในทางกลับกันยิ่งราคาของสินค้าลดต่ำลงความต้องการขายของผู้ขายก็จะลดลงตาม

จากกฎของอุปทาน (Law of Supply) ความสัมพันธ์ระหว่างราคา (Price) กับระดับความต้องการขายสินค้าของผู้ขายหรือผู้ผลิต (Supply) สามารถสรุปได้ดังนี้

  • เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น (Price เพิ่มขึ้น) ความต้องการขายเพิ่ม (Supply เพิ่มขึ้น)
  • เมื่อราคาสินค้าลดลง (Price ลดลง) ความต้องการขายลดลง (Supply ลดลง)

กล่าวคือ ความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินค้ากับความต้องการขาย (Price กับ Supply) ตามกฎของอุปทาน หรือ Law of Supply มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่ความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินค้ากับความต้องการขายจะไม่เป็นไปตามกฎของอุปทาน หรือขัดกับกฎของอุปทาน หรือ Law of Supply ซึ่งมักจะเป็นสินค้าประเภทที่ไม่สามารถผลิตเพิ่มได้และสินค้าที่มีอยู่อย่างจำกัดที่ไม่ว่าผู้ขายต้องการขายมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถผลิตหรือหามาเพิ่มได้

ตัวอย่างเช่น วัตถุโบราณที่มีอยู่แบบเดียวและชิ้นเดียว เป็นต้น

ปัจจัยที่มีผลต่อกฎของอุปทาน

ปัจจัยที่มีผลต่อกฎของอุปทาน (Law of Supply) เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปริมาณความต้องการขายสินค้าหรือบริการที่ผู้ผลิตเต็มใจขายและระดับราคาที่แตกต่างกัน โดยปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่มีผลต่อกฎของอุปทาน ได้แก่

  • ระดับราคาของสินค้า (Price) ราคาที่สูงขึ้นของสินค้าจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตเพิ่มปริมาณการผลิตของสินค้าดังกล่าวได้
  • ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Costs) เมื่อต้นทุนที่เกี่ยวข้องในการผลิตสินค้าลดลง มีแนวโน้มที่จะทำให้ความต้องการผลิตของผู้ผลิตเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน
  • เทคโนโลยี (Technology) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการผลิตโดยตรง สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ส่งผลให้ด้วยต้นทุนเท่ากันผู้ผลิตสามารถผลิตได้มากขึ้น
  • จำนวนผู้ผลิต (Manufacturers) เป็นเรื่องปกติที่เมื่อจำนวนผู้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณสินค้าดังกล่าโดยรวมในตลาดเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย

กราฟ Law of Supply หรือ กราฟกฎของอุปทาน

ความสัมพันธ์ระหว่างราคา (Price) กับระดับความต้องการขายสินค้าของผู้ขายหรือผู้ผลิต (Supply) ตามกฎของอุปทาน สามารถเขียนเป็นกราฟได้ดังนี้

กฎของอุปทาน คือ กราฟ Law of Supply คือ เส้น อุปทาน Supply Curve
กราฟกฎของอุปทาน (Law of Demand)

โดยที่แกนตั้งคือระดับราคาของสินค้า (Price) และแกนนอนคือปริมาณความต้องการขายสินค้า (Quanity Supplied)

จากกราฟจะเห็นว่า เมื่อระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อย่างเช่น ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจากจุด P2 ไป P1 (ด้วยเหตุผลบางอย่าง) ปริมาณความต้องการขายสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นตามจาก Q2 ไป Q1 เช่นกัน (ฟ้าไปแดง)

และในทางกลับกันเมื่อระดับราคาสินค้าลดลงจากจุด P1 เหลือจุด P2 ปริมาณความต้องการขายสินค้าของผู้ขายก็จะลดลงตามจากจุด Q1 เหลือ Q2

โดยเราจะเรียกการที่ความต้องการขายหรืออุปทาน (Supply) ดังกล่าวที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะราคาของสินค้าไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันตามกฎของอุปทานหรือเปลี่ยนไปในทิศทางตรงกันข้ามขัดกับกฎของอุปทานว่าความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา (Price Elasticity of Supply)

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด