Exchange Traded Fund หรือที่ได้ยินบ่อย ๆ ในชื่อ กองทุน ETF คือ อะไร ?
ETF คือ ชื่อย่อของ Exchange Traded Fund เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบหนึ่ง ที่เป็นกึ่งกลางระหว่าง กองทุน (Fund) กับ หุ้น (Stock)
โดย ETF ก็คือ กองทุนรวม (Mutual Fund) รูปแบบหนึ่ง แต่สิ่งที่ต่างออกไปของ ETF คือ เป็นกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้สามารถซื้อขาย ETF ได้ Real-Time แบบหุ้น
ซึ่งนั่นหมายความว่าเพียงแค่นักลงทุนมี พอร์ตหุ้น (Portfolio) ก็สามารถที่จะซื้อและขาย ETF เมื่อไหร่ก็ได้ (ถ้าตลาดหุ้นเปิดอยู่)
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถทราบมูลค่าของกองทุนได้ทันที ไม่ต้องรอราคา NAV (Net Value Asset) ตอนสิ้นวันเหมือนกับกองทุนเปิดทั่วไป (รู้ราคา Real-Time เหมือนหุ้น)
ราคา ETF อ้างอิงจากอะไร ?
มูลค่าหรือราคาของ ETF จะอ้างอิงจากราคาหรือสินทรัพย์ที่ กองทุน ETF กองทุนนั้น ๆ เข้าไปลงทุน ซึ่งก็คืออะไรก็ได้ที่สามารถลงทุนได้ เช่น
ทองคำแท่ง (Gold Bar)
น้ำมันดิบ (Crude Oil)
ดัชนีหุ้น เช่น SET50 Index
หุ้นในบางกลุ่ม เช่น เทคโนโลยี สายการบิน
หุ้นต่างประเทศ ที่กองทุนนั้นเข้าไปลงทุน
ตราสารหนี้ (Bond ETF)
ยิ่งเป็น ETF ต่างประเทศ ยิ่งหลากหลายเข้าไปอีกจนคุณนึกไม่ถึงว่าจะมี ETF แบบนี้อยู่ด้วย (แนะนำให้ไปลองหาดูขำ ๆ จริง ๆ)
ดังนั้น ถ้าสินทรัพย์ที่ ETF อ้างอิง มีราคาเพิ่มขึ้น มูลค่าของ ETF ก็ควรจะเพิ่มขึ้นในระดับที่ใกล้เคียงกัน ในทางตรงกันข้ามหากสินทรัพย์อ้างอิงมูลค่าลดลง มูลค่าของ ETF ก็จะลดลงในระดับที่ใกล้เคียงกัน
ผลตอบแทนจากการลงทุนใน ETF
อย่างที่บอกว่า ETF เป็นกองทุนรวม (Mutual Fund) แต่ลักษณะการซื้อขายจะเหมือนหุ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนใน ETF ก็จะเหมือนหุ้นเช่นกัน
โดยผลตอบแทนของ ETF มีอยู่ 2 แบบ คือ
กำไรจากส่วนต่าง (Capital Gain) – การซื้อถูกขายแพง กำไรจากกรณีนี้ เรียกว่า Capital Gain
เงินปันผล (Dividend) – หน่วยลงทุน ETF หรือ กองทุน ETF ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน ก็จะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนหากกองทุน ETF นั้นมีกำไร ซึ่งเงินปันผลจะจ่ายกี่ % ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริการกองทุนนั้นๆ