กองทุน LTF คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ Long Term Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวม (Mutual Fund) ที่เน้นลงทุนในตราสารทุน หรือ หุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ โดยเงื่อนไขของ กองทุน LTF คือ กองทุนจะต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทุน
ส่วนอีก 35% ที่เหลือกองทุนอาจจะลงทุนในสินทรัพย์อื่น อย่างเช่น ตราสารหนี้ และพันธบัตรรัฐบาล ทำให้กองทุน LTF แต่ละกองทุนก็จะแตกต่างกันออกไปตามสัดส่วนของพอร์ตการลงทุนของแต่ละกองทุน LTF เช่น เน้นลงทุนในหุ้นเล็ก ลงทุนหุ้นบริษัทใหญ่ เน้นหุ้นปันผล และลงทุนในหุ้นผสมกับตราสารหนี้ในส่วน 35% ที่เหลือ
ผลตอบแทนของ กองทุน LTF คือ เงินปันผล (Dividend) เหมือนกับการซื้อหุ้น (แต่ LTF ไม่ใช่หุ้น) อย่างไรก็ตามในบางกองทุนอาจจะมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผลก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนและนโยบายของกองทุน
แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนให้ความสนใจกับ กองทุน LTF คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนที่ ซื้อหน่วยลงทุน LTF โดยนักลงทุนสามารถใช้มูลค่าที่ซื้อหน่วยลงทุนไปใช้ลดหย่อนภาษี โดยการซื้อ LTF สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 500,000 บาท
หมายเหตุ: กองทุนรวม คือ การฝากเงินให้กับกองทุน เพื่อให้กองทุนนำเงินของเราและนักลงทุนคนอื่นๆ ไปลงทุนในหลักทรัพย์ตามเงื่อนไขของกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ กองทุนรวม คืออะไร? มารู้จักกับกองทุนรวม
ซื้อ LTF ลดหย่อนภาษี อย่างไร
นอกจากการ ซื้อ LTF จะเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่เป็นการลงทุนในกองทุนรวม (Mutual Fund) การซื้อ LTF ยังทำให้สามารถนำไปใช้เป็น ลดหย่อนภาษีได้เท่ากับที่จ่ายซื้อ LTF แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเงินจำนวนนั้นต้องไม่เกิน 500,000 บาท
และมีเงื่อนไขที่สำคัญอีกข้อของ การซื้อกองทุน LTF คือ นักลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน (แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี) จึงจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้โดยไม่โดนเรียกเก็บภาษีส่วนที่ลดหย่อนไปย้อนหลัง พร้อมเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ยื่นขอยกเว้นภาษี
พูดง่ายๆ ก็คือถ้าซื้อ LTF ปีนี้และนำไปลดหย่อนภาษีเรียบร้อยแล้ว ผ่านไป 2 ปี (ไม่ถึง 7 ปี) คุณขายหน่วยลงทุน LTF ที่ซื้อมา ก็จะต้องจ่ายภาษีคืนในส่วนที่ได้ ลดหย่อนภาษีจากการซื้อ LTF
นอกจากนี้ กำไรที่เกิดจากการขายคืนหน่วยลงทุน หรือเรียกว่า Capital Gain ที่เกิดขึ้นจากการขายหน่วยลงทุน เมื่อถือครบตามเงื่อนไข 7 ปี เงินส่วนนั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เช่นกัน (ไม่ต้องเอามาคำนวณภาษี)
ในทางกลับกันถ้าหากขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบ 7 ปีปฏิทิน ก็จะต้องจ่ายภาษี โดย หัก ณ ที่จ่าย 3% ของกำไร รวมทั้งนำเงินได้จำนวนนี้ไปคิดภาษีตอนสิ้นปีด้วย (ตามปกติ)
กองทุน LTF เหมาะกับใคร
กองทุน LTF คือ กองทุนที่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงที่ต้องการผลตอบแทนสูงจากการลงทุนระยะยาวและ สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือเป็นผู้ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อลดหย่อนภาษี เนื่องจากเพดานในการลดหย่อนภาษีของการ ซื้อกองทุน LTF ลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 500,000 บาท
อย่างไรก็ตาม การที่จะลดหย่อนภาษี (ด้วยวิธีใดก็ตาม) แนะนำว่าให้สำรวจรายได้ของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ว่าจำเป็นต้องใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีหรือไม่ เพราะถ้าหากว่ารายได้อยู่ในระดับที่ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าลดหย่อน LTF การซื้อหน่วยลงทุน LTF จะทำให้ท่านต้องจ่ายมากกว่าภาษีที่ได้ลดไป
ยกเลิก LTF 2562
สิ้นปี 2562 คือวันสุดท้ายที่ กองทุน LTF จะยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน LTF เพื่อที่จะใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ก็จะยังใช้สิทธิได้เป็นครั้งสุดท้ายในการยื่นภาษีประจำปี 2562 (ในช่วงต้นปี 2563)
โดยกองทุนที่คาดว่าจะมาแทน กองทุน LTF คือ กองทุน SSF หรือ Super Saving Fund ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้คล้ายกับกองทุน LTF (แต่มีการปรับสัดส่วนการลดหย่อนภาษี)
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุน SSF ที่แทนที่ กองทุน LTF ในการลดหย่อนภาษี ได้ที่บทความ SSF คืออะไร? มาทำความรู้จักกับกองทุนที่จะมาแทน LTF