ทำความเข้าใจกับมาตรการกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) ในการค้าระหว่างประเทศ มาดูกันว่าการกีดกันทางการค้า คืออะไร? และทำอย่างไร
การกีดกันทางการค้า คืออะไร?
การกีดกันทางการค้า คือ มาตรการในการค้าระหว่างประเทศที่แต่ละประเทศใช้เพื่อจำกัดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งเรียกว่า มาตรการกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) โดยอาจเป็นได้ทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี และ มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
มาตรการกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) คือมาตรการทางการค้าที่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าดังกล่าวภายในประเทศ จากการเข้ามาของสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงปกป้องการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าสินค้ามามากกว่าการส่งออก
ตัวอย่างเช่น การห้ามนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วจากต่างประเทศของประเทศหนึ่งด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือการปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ
การกีดกันทางการค้า (Trade Barriers) สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี (Tariff Barriers) และ มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)
ข้ามไปที่หัวข้อที่ต้องการอ่าน
- มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี (Tariff Barriers)
- มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)
มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี
มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี คือ มาตรการกีดกันทางการค้าที่รัฐบาลจะใช้การจัดเก็บ ภาษีศุลกากรขาเข้า หรือ ภาษีนำเข้า ในอัตราที่สูง (หรือสูงขึ้น) เพื่อทำให้ผู้นำเข้าสามารถนำเข้าสินค้าได้ยากขึ้นตามราคาสินค้าที่สูงขึ้นตามภาษีนำเข้าที่รัฐจัดเก็บ
การกีดกันทางการค้า ด้วยภาษีที่สูงตาม มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี (Tariff Barriers) จะส่งผลให้สินค้าประเภทเดียวกันที่ต้องนำเข้า มีราคาแพงกว่าสินค้าภายในประเทศ
ทั้งหมดจะส่งผลให้ผู้บริโภคต้องการนำเข้าสินค้าดังกล่าวน้อยลง และหันไปใช้สินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิตขึ้นภายในประเทศแทน
ตัวอย่างเช่น ประเทศ T เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ 300% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่อยู่ภายในประเทศ T ให้ไม่ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากรถยนต์ที่ผลิตจากต่างประเทศ
สรุปให้รวบรัดกว่านั้น มาตรการกีดกันทางการค้าทางภาษี (Tariff Barriers) คือ การกีดกันทางการค้าที่จะทำให้สินค้านำเข้าแพงขึ้นจนผู้ซื้อไม่อยากนำเข้าสินค้าดังกล่าว เพื่อทำให้สินค้าจากต่างประเทศไม่ถูกนำเข้ามาแข่งขันภายในประเทศได้ง่าย
แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากว่ารัฐบาลต้องการส่งเสริมการส่งออกสินค้า รัฐบาลก็จะจัดเก็บภาษีการส่งออกในระดับที่ต่ำหรือไม่เก็บภาษีขาออกเลย
มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี คือ มาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้าด้วยวิธีใดก็ตามที่ไม่ใช่การใช้ภาษีนำเข้า แต่จะใช้ประเด็นละเอียดอ่อนบางอย่างเป็นข้ออ้างและเงื่อนไขในการห้ามนำเข้าสินค้า หรือจำกัดการนำเข้าสินค้าบางอย่าง
การกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี อาจเป็นการห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด หรือสามารถนำเข้าแต่ต้องใช้ใบอนุญาตินำเข้า หรือจำกัดการนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง
สำหรับประเด็นที่นำมาใช้เป็นเหตุผลของ มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers) ได้แก่
- มาตรฐานของสินค้า
- สวัสดิภาพสัตว์
- ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
- กฎหมายแรงงาน
- มาตรฐานด้านแรงงาน
ตัวอย่างเช่น ประเทศ U ห้ามนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับมะพร้าวจากประเทศ T ด้วยประเด็นสวัสดิภาพสัตว์ โดยให้เหตุผลว่า ประเทศ T ใช้ลิงเก็บมะพร้าวจากสวน ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นการทรมาณสัตว์
นอกจากนี้ การกีดกันทางการค้าด้วยวิธีที่ไม่ใช่ภาษียังสามารถทำได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการนำเข้าสินค้า ตัวอย่างเช่น การกำหนดคุณภาพสินค้าเอาไว้มากเกินปกติ และ การยืดเวลาตรวจสอบสินค้านำเข้าให้นานกว่าปกติ