Trompenaars Cultural Dimensions คืออะไร?
มิติทางวัฒนธรรมของ Trompenaars คือ งานวิจัยด้านวัฒนธรรมที่รวบรวมจากผลสำรวจพนักงานและผู้นำ 8,841 คนจากใน 43 ประเทศเพื่อศึกษาความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งจากงานวิจัยของ Trompenaars พบว่าสามารถแบ่งลักษณะมิติทางวัฒนธรรมออกเป็น 7 ด้าน โดยที่แต่ละด้านหรือแต่ละมิติทางวัฒนธรรมจะเป็นคู่ที่แสดงด้านตรงข้ามกัน
Trompenaars Cultural Dimensions หรือ มิติทางวัฒนธรรมของ Trompenaars ทั้ง 7 ด้านประกอบด้วย ปัจจัยทางวัฒนธรรม ดังนี้
- Universalism vs particularism
- Individualism vs collectivism
- Neutral vs emotional
- Specific vs diffuse
- Achievement vs ascription
- Sequential vs synchronic
- Internal vs external control
มิติทางวัฒนธรรมของ Trompenaars เป็นผลจากงานวิจัยของ Alfonsus (Fons) Trompenaars นักทฤษฎีองค์กร ที่ปรึกษาด้านการจัดการ และนักเขียนชาวดัตช์ในสาขาการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และ Charles Hampden-Turner นักปรัชญาการจัดการชาวอังกฤษในปี 1997 ซึ่งปัจจุบันแนวคิดดังกล่าวได้รับความนิยมในการนำมาใข้อธิบายเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมภายในองค์กรข้ามชาติ เช่นเดียวกับแนวคิดมิติทางวัฒนธรรมของ Hofstede
Universalism vs Particularism
Universalism และ Particularism คือ มิติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับแนวคิดของคนในแต่ละวัฒนธรรมต่อแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นสากลของแนวคิดบางอย่าง
Universalism คือ แนวคิดทางวัฒนธรรมที่เชื่อว่ากฎหนึ่งสามารถใช้ได้ทั้งโลก โดยไม่ต้องปรับปรุงตามความแตกต่างทางวัฒนธรรมและปัจจัยอื่นๆ เน้นความเป็นสากล
Particularism คือ แนวคิดที่เชื่อว่าแนวคิดเดียวไม่สามารถใช้ได้กับทุกประเทศทั่วทั้งโลก แต่ต้องปรับให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
Individualism vs Collectivism
Individualism และ Collectivism คือ มิติทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละวัฒนธรรม เป็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมที่มีการใช้ชีวิตเป็นปัจเจกที่เน้นอยู่คนเดียว หรือใช้ชีวิตแบบอยู่เป็นกลุ่มก้อน
Individualism เป็นวัฒนธรรมที่มีความเป็นปัจเจกบุคคล เป็นวัฒนธรรมที่ผู้คนในวัฒนธรรมจะมีแนวโน้มประเภทที่อยู่แบบตัวใครตัวมัน ไม่เน้นอยู่เป็นกลุ่ม มีความเป็นตัวเองสูง เน้นทำอะไรคนเดียวไม่ยุ่งกับคนอื่นรวมถึงการตัดสินใจในการทำงานที่ออกมาจากคำสั่งของคนคนเดียวมากกว่าการรอความเห็นของกลุ่ม
Collectivism คือ วัฒนธรรมที่เน้นอยู่เป็นกันกลุ่มก้อน ชอบทำงานเป็นกลุ่ม ไม่ชอบทำอะไรลำพัง ตลอดจนการตัดสินใจก็มักจะพึ่งพาความคิดเห็นของคนในกลุ่ม อย่างที่สามารถพบเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ได้จากประชากรโดยส่วนมากของประเทศในแถบเอเชีย อย่างเช่น ไทย จีน เกาหลี สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
Neutral vs Emotional
Neutral และ Emotional คือ มิติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับการแสดงออกทางอารมณ์ของคนในแต่ละวัฒนธรรม ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิด ระหว่างการแสดงออกทางอารมณ์ที่ชัดเจน (Emotiona) และการเก็บซ่อนการแสดงอารมณ์ (Neutral)
Neutral คือ เป็นวัฒนธรรมที่มีพฤติกรรมประเภทวางเฉย เก็บอารมณ์ไว้ ไม่แสดงอารมณ์หรือสิ่งที่คิดออกมาอย่างชัดเจน ตลอดจนท่าทีในการแสดงออกรวมถึงการให้คำตอบที่ไม่ค่อยขัดเจนมากนัก
Emotional คือ วัฒนธรรมประเภทที่ผู้คนนิยมแสดงอารมณ์และความคิดเห็นออกมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ พอใจหรือไม่พอใจ
Specific vs Diffuse
Specific และ Diffuse คือ มิติทางวัฒนธรรมที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเส้นแบ่งระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานในสังคมนั้น ๆ
Specific เป็นวัฒนธรรมที่แยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวชัดเจน ตัวอย่างเช่น การไม่เอางานกลับไปทำที่บ้าน ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน
Diffuse เป็นวัฒนธรรมที่ตรงข้ามกับ Specific คือจะเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน เวลาทำงานอาจจะทำเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน และเวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงานก็อาจจะทำงาน
Achievement vs Ascription
Achievement และ Ascription คือ มุมมองเกี่ยวกับความให้ความสำคัญกับคนคนหนึ่ง โดยมุมมองแบบ Achievement และ Ascription จะแสดงว่าวัฒนธรรมนั้นมีแนวโน้มที่จะให้ค่าความสำคัญคนคนหนึ่งจากอะไร
Achievement คือ วัฒนธรรมที่คนในสังคมให้ความสำคัญกับความสำเร็จของคน โดยไม่สนอายุ เชื้อชาติ ชนชั้น วรรณะ หรือสถานภาพทางสังคมของคนคนหนึ่ง
Ascription คือ วัฒนธรรมที่คนในสังคมให้ความสำคัญกับตัวคน ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของอายุ ความน่าเชื่อถือ สถานภาพทางสังคม ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจแตกต่างกันในแต่ละบริบทของความยอมรับ
Sequential vs Synchronic
Sequential และ Synchronic เป็นมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเวลาที่ต่างกันของผู้คนในแต่ละสังคม
Sequential เป็นวัฒนธรรมที่ผู้คนมีลักษณะนิสัยในการทำอะไรทีละอย่าง การทำงานจึงเป็นรูปแบบการทำให้เสร็จเป็นเรื่อง ๆ ก่อนที่จะเริ่มทำเรื่องอื่น และมีการแบ่งเวลาสำหรับงานและชีวิตส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน
Synchronic คือ วัฒนธรรมที่ตรงข้ามกับ Sequential อย่างสิ้นเชิง เป็นวัฒนธรรมที่ผู้คนมักจะทำหลายอย่างพร้อมกัน แทนที่จะทำให้เสร็จทีละเรื่อง ในขณะที่ประเด็นด้านการแบ่งเวลาของผู้คนที่มีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องเวลาแบบ Synchronic ในเวลางานพวกเขาอาจจะทำเรื่องส่วนตัวบ้าง และในขณะที่บางครั้งเวลาส่วนตัวก็อาจถูกใช้ไปกับการทำงาน
Internal vs External control
Internal Control และ External Control เป็นมิติทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับความเชื่อของผู้คนในแต่ละวัฒนธรรมว่าเชื่อว่าเราสามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้หรือไม่
Internal คือ วัฒนธรรมที่เชื่อว่าปัจจัยภายนอกเราสามารถควบคุมได้เองไม่มากก็น้อย ทำให้คนจากวัฒนธรรมแบบนี้จะพยายามหาทางควบคุมปัจจัยภายนอกหรือเรื่องที่ไม่คาดคิดให้ได้เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกให้มากที่สุด อย่างเช่น การทำสัญญาทั่วไปในธุรกิจ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Future Contract) ที่ใช้ควบคุมต้นทุนการผลิตจากความไม่แน่นอนของราคาต้นทุนการผลิต
External คือ วัฒนธรรมที่เชื่อว่าปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ ผู้คนในวัฒนธรรมแบบนี้จะเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหาปัจจัยภายนอกแทนและยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถควบคุมได้ในลักษณะของอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด