ส่วนของเจ้าของ คือ แหล่งที่มาของเงินทุนของธุรกิจ โดยส่วนของเจ้าของคือเงินทุนที่จะได้มาจากการลงทุนของผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ (ตามชื่อส่วนของเจ้าของ) ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity) จะประกอบด้วย 3 ส่วน ที่พบได้ในงบแสดงฐานะการเงิน ได้แก่ ทุนเรือนหุ้น ส่วนเกินมูลค่าหุ้น และกำไรสะสม
ทุนเรือนหุ้น (Shared Capital) แสดงมูลค่าหุ้นของกิจการจากราคาพาร์
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น (Share Premium) แสดงมูลค่าของหุ้นที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับราคาพาร์
กำไรสะสม หรือ ขาดทุนสะสม (Earned Surplus/Loss Surplus) แสดงผลกำไรหรือขาดทุนสะสมของกิจการ
โดยส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity) จะมีชื่อแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งส่วนของเจ้าของแต่ละแบบมีชื่อเรียกดังนี้:
- ส่วนของเจ้าของ คือ กิจการที่มีเจ้าของคนเดียว
- ส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน คือ กิจการที่เป็นห้างหุ้นส่วน
- ส่วนของผู้ถือหุ้น คือ กิจการที่เป็นบริษัท
จะเห็นว่าความแตกต่างระหว่าง ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity) กับส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Equity) คือสิ่งที่แตกกันไปตามความต่างของลักษณะของกิจการนั่นเอง
ทุนเรือนหุ้น (Shared Capital)
ทุนเรือนหุ้น คือ มูลค่าของหุ้นของกิจการ โดยในงบแสดงฐานะการเงินในส่วนของทุนเรือนหุ้นจะแสดงมูลค่าของหุ้นจากราคาพาร์ (Par Value) ซึ่งเป็นราคาหุ้น ณ ตอนที่บริษัทจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นมา
ตัวอย่างเช่น บริษัท Houston Lawyers ก่อตั้งบริษัทโดยแบ่งหุ้นออกเป็น 100,000 หุ้น โดยบริษัทฯ ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทด้วยราคาพาร์ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ทุนเรือนหุ้น = 100,000 หุ้น x 10 ดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น ทุนเรือนหุ้น ของบริษัท Houston Lawyers ในบัญชี จะมีมูลค่า 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น (Share Premium)
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น คือ มูลค่าของหุ้นที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับราคาพาร์ของหุ้น (ราคาหุ้นเปลี่ยนไปเท่าไหร่)
จากตัวอย่างเดิม ทุนเรือนหุ้น ของบริษัท Houston Lawyers มีมูลค่า 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มูลค่าที่คิดจาก ราคาพาร์)
แต่ถ้าหากปัจจุบันราคาหุ้นบริษัท Houston Lawyers เพิ่มขึ้นเป็นหุ้นละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (จากเดิมหุ้นละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ) นั่นหมายความว่ามูลค่าจริงของหุ้นบริษัท ณ วันนี้ คือ 10,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มาจาก 100,000 หุ้น x 100 ดอลลาร์ฯ)
อย่างที่บอกว่าส่วนเกินมูลค่าหุ้น (Share Premium) คือส่วนต่างของราคาหุ้นที่เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับราคาพาร์ (Par Value)
ถ้าหากมูลค่าปัจจุบันของหุ้นทั้งหมดของบริษัท Houston Lawyers คือ 10,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าหุ้นเมื่อคิดจากราคาพาร์คือ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้น ส่วนเกินมูลค่าหุ้น คือ 9,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มาจาก 10,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ – 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
วิธีหาส่วนเกินมูลค่าหุ้น
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น = มูลค่ารวมของหุ้นในปัจจุบัน – ทุนเรือนหุ้น
สำหรับกรณีที่ส่วนเกินมูลค่าหุ้น ต่ำกว่าราคาในงบการเงิน (ราคาหุ้นต่ำกว่าตอนจัดตั้งบริษัท) ก็จะบันทึกว่าส่วนเกินมูลค่าหุ้นติดลบเท่าไหร่แทน (ตัวเลขจะมีวงเล็บ)
กำไรสะสม (Earned Surplus)
กำไรสะสม คือ การที่บริษัทมีกำไรแล้วเก็บกำไรไว้ส่วนหนึ่งหลังจากที่บริษัทได้ทำการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น หรืออธิบายให้ง่ายกว่านั้นกำไรสะสมคือเงินที่บริษัทเก็บไว้ซึ่งเป็นเงินที่เหลือมาจากการจ่ายเงินปันผล
โดยเงินที่บริษัทกันเอาไว้เป็น กำไรสะสม (Earned Surplus) ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทนั้นมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร
ในกรณีที่บริษัทขาดทุน กำไรสะสมของบริษัท ก็จะลดลงตามที่บริษัทได้ขาดทุน แต่ในกรณีที่กำไรสะสมเป็นลบจะเรียกว่า ขาดทุนสะสม (Loss Surplus)