เครื่องหมาย CA คืออะไร?
เครื่องหมาย CA คือ เครื่องหมาย Corporate Action เป็นเครื่องหมายหุ้นที่จะแสดงให้นักลงทุนเห็นว่าหุ้นของบริษัทนั้นกำลังประกาศอะไรบางอย่างภายใน 7 วัน อย่างเช่น การขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้เงินปันผล) และการขึ้นเครื่องหมาย XM (ไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น)
กล่าวคือ หุ้นขึ้น CA คือ สิ่งที่อาจแตกต่างออกไปในแต่ละกรณี ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทฯ ประกาศอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อโปรแกรม Streaming Pro แสดง เครื่องหมาย CA จึงหมายถึงการที่บริษัทนั้นกำลังจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เครื่องหมาย CA เป็นเครื่องหมายหุ้นที่พบได้บ่อยที่สุดใน Streaming Pro เนื่องจากเครื่องหมาย CA จะขึ้นมาเมื่อหุ้นนั้นมีเครื่องหมายหุ้นหลายเครื่องหมายขึ้นพร้อมกันในครั้งเดียว ตัวออย่างเช่น เครื่องหมาย XD ขึ้นพร้อมกับเครื่องหมาย XM และเครื่องหมาย XR
โดยนักลงทุนสามารถดูรายละเอียดของประกาศที่ทำให้มีเครื่องหมาย CA ขึ้นมาที่ท้ายชื่อหุ้น ได้ด้วยการลากเมาส์ไปชี้ไว้ที่เครื่องหมาย CA เพื่อแสดงกล่องข้อความที่จะประกอบไปด้วยเครื่องหมายหุ้นทั้งหมดที่ประกาศอยู่ ณ ขณะนั้น (พร้อมกับวันที่)

หุ้นขึ้น CA ประกาศอะไรบ้าง
ตามที่ได้อธิบายในตอนต้นว่า หุ้นขึ้น CA เพราะบริษัทดังกล่าวกำลังจะมีประกาศหรือกำลังมีอะไรเกิดขึ้น (ภายใน 7 วัน) โดยประกาศที่ทำให้หุ้นขึ้นเครื่องหมาย CA ได้แก่
เครื่องหมาย X ที่เกี่ยวกับการไม่ได้รับสิทธิเมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นขณะที่หุ้นขึ้นเครื่องหมาย X ได้แก่
- XD (Excluding Dividend) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล
- XM (Excluding Meetings) คือ ผู้ซื้อไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
- XR (Excluding Right) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่
- XW (Excluding Warrant) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์
- XE (Excluding Exercise) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิในการนำตราสารสิทธิไปแปลงสภาพเป็นหุ้นอ้างอิง
- XS (Excluding Short-term Warrant) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ระยะสั้น
- XT (Excluding Transferable Subscription Right) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
- XI (Excluding Interest) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับดอกเบี้ย
- XP (Excluding Principal) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับเงินต้นที่บริษัทประกาศจ่ายคืนในครั้งนั้น
- XA (Excluding All) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิทุกประเภทที่บริษัทประกาศในครั้งนั้น
- XN (Excluding Capital Return) คือ ผู้ซื้อไม่มีสิทธิในการรับเงินคืนจากการลดทุน
- XB (Excluding Other Benefit) คือ ผู้ซื้อไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่ แบ่งเป็น 4 กรณี ได้แก่ สิทธิจองซื้อหุ้นบุริมสิทธิที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ สิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทในเครือ
เครื่องหมายห้าม หรือเตือนให้นักลงทุนในการซื้อขายหุ้นเหล่านั้น ได้แก่
- H (Trading Halt) คือ การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว เนื่องจากมีข่าวที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่บริษัทยังไม่ได้แจ้งข้อมูลหรืออยู่ระหว่างรอเปิดเผยข้อมูล หรือมีเหตุอื่นที่อาจกระทบต่อการซื้อขายอย่างร้ายแรง
- SP (Trading Suspension) คือ การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับการขึ้นเครื่องหมาย H แต่บริษัทยังไม่สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯได้ หรืออาจฝ่าฝืน ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งไม่ส่งงบการเงินให้ภายในเวลากำหนด
- NP (Notice Pending) คือ บริษัทมีข้อมูลที่ต้องรายงาน และตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท
- NR (Notice Received) คือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทแล้ว
- NC (Non-Compliance) คือ บริษัทที่เข้าข่ายการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
- ST (Stabilization) คือ หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน
เครื่องหมาย T ที่เป็นเครื่องหมายบอกระดับการติด Cash Balance ของหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติตามลำดับความรุนแรง (จากน้อยไปหามาก) ได้แก่
- T1 (Trading Alert Level 1) คือ ระดับ 1 Cash Balance และห้ามใช้หุ้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย
- T2 (Trading Alert Level 2) คือ ระดับ 2 ห้าม Net Settlement เพิ่มเติมจาก T1
- T3 (Trading Alert Level 3) คือ ระดับ 3 ห้ามซื้อขาย 1 วันทำการแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย T3 เพิ่มเติมจาก T2
โดยที่ Cash Balance คือ การที่นักลงทุนต้องซื้อหลักทรัพย์ด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) หรือบัญชีแบบเติมเงินเท่านั้น โดยนักลงทุนจะต้องวางเงินสดไว้กับโบรกเกอร์เต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์ (ใช้บัญชีแบบกู้เงินมาลงทุนไม่ได้)
การห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย คือ ห้ามโบรกเกอร์ใช้หลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี (เพื่อป้องกันการล้มเป็นโดมิโน่ในกรณีเลวร้าย)
การห้าม Net Settlement คือ ห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ทำให้การซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกันจะไม่ได้รับวงเงินคืนมาทันที แต่ค่าขายคืนจะได้คืนมาเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป (เพื่อป้องกันนักเก็งกำไรเข้าไปทำราคาให้ผันผวนไปมากกว่านั้น)
ดูเครื่องหมาย CA ล่วงหน้า
เพื่อเป็นการป้องกันการพลาดสิทธิประโยชน์บางอย่างจากการซื้อหุ้น ณ เวลานั้น ตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้นในช่วงที่มี เครื่องหมายประเภท X ที่ผู้ที่ซื้อหุ้นดังกล่าวจะเสียสิทธิประโยชน์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้น ณ วันที่ขึ้น เครื่องหมาย XD ที่จะไม่ได้สิทธิในการรับเงินปันผลรอบที่จะถึง เป็นต้น
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่นักลงทุนจะอ่านรายละเอียดของเครื่องหมาย CA ที่ขึ้น เพื่อรับทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรกำลังจะเกิดหรือกำลังเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถตรวจสอบหุ้นที่กำลังจะขึ้นหมายหุ้นต่าง ๆ ล่วงหน้าที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในส่วน ปฏิทินหลักทรัพย์ (X Calendar)