Bitcoin คือ Safe Haven
Bitcoin คือ Safe Haven ชนิดใหม่ที่เป็นความคาดหวังของนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่านักลงทุนมองว่า Bitcoin คือ สินทรัพย์หรือสกุลเงินดิจิตอลที่ไม่ได้เชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจแบบเดิมโดยตรง ทำให้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบเมื่อสินทรัพย์อย่างหุ้นมูลค่าลดลง
ส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนมองว่า Bitcoin คือ Safe Haven ในมุมมองดังกล่าว มาจากการที่เหตุผลของการสร้าง Bitcoin ของผู้ที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto คือ การสร้างสกุลเงินขึ้นมาโดยมีเป้าหมายว่าเป็นสกุลเงินที่ไม่สามารถแทรกแซง (Manipulate) ได้จากระบบธนาคารเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ถึงแม้ว่า Bitcoin ในฐานะของสกุลเงิน (Currency) จะล้มเหลวแบบไม่ต้องสงสัยด้วยราคาที่ผันผวนเกินไปก็ตาม
กลับมาที่ Safe Haven อธิบายแบบสั้นและรวบรัด Safe Haven คือสินทรัพย์อะไรก็ตามที่นักลงทุนย้ายเงินไปพักเอาไว้ (ไม่ต้องกำไรมากก็ได้ขอแค่ไม่ขาดทุน) เพื่อรักษากำลังซื้อในช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวน เนื่องจาก Safe Haven Assets เป็นสินทรัพย์ประเภทที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนโดยตรง อย่างเช่น ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมาอย่างยาวนาน
พูดให้ง่ายกว่านั้น การที่นักลงทุนบางคนมองว่า Bitcoin คือ Safe Haven เกิดจากการที่นักลงทุนเชื่อว่า เมื่อหุ้นลงอย่างรุนแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา Bitcoin จะไม่ได้รับผลกระทบอะไร
Bitcoin ไม่ใช่ Safe Haven
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหลายครั้งจะขัดกับนักลงทุนที่มองว่า Bitcoin คือ Safe Haven เพราะในหลายครั้ง หลายความผันผวน ตัวอย่างเช่นในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2563 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ผันผวนที่สุดในรอบ 11 ปีของตลาดการเงินจนถึงขณะนั้น นับตั้งแต่วิกฤตการเงินเมื่อปี 2008 ที่รู้จักกันในชื่อของ Subprime Crisis หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
ส่งผลให้ในสัปดาห์ดังกล่าว Bitcoin มีมูลค่าลดลงจาก 9,134 ดอลลาร์สหรัฐเหลือ 4,193 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ -40%) หรือคิดเป็นเงินบาทจะมีมูลค่าลดลงจากประมาณ 290,000 บาทเหลือประมาณ 133,000 บาท ต่อ 1 BTC ในเวลาเพียง 7 วัน
กราฟราคา Bitcoin ช่วงวันที่ 7 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2563 (วันที่เขียนบทความ)

ถ้าหากคุณลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2563 ด้วยเงิน 2 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าเป็น Safe Haven เพื่อหนีจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเรื่องของการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือสงครามราคาน้ำมันของอิหร่านกับรัสเซีย คุณจะมีเงินเหลือ 1,200,000 บาท ณ วันนี้
ทำไม Bitcoin ยังไม่ใช่ Safe Haven
จากที่ก่อนหน้านี้ได้อธิบายถึงพื้นฐานของ Safe Haven จะเห็นว่า นักลงทุนที่นำเงินลงทุนมาพักในสินทรัพย์ปลอดภัยแท้จริงแล้วไม่ได้ต้องการกำไรที่หวือหวา เพียงแต่นำมาพักไว้เพียงแค่ต้องการรักษากำลังซื้อและหลีกเลี่ยงความผันผวนที่รุนแรงเกินควบคุมในช่วงที่ตลาดผันผวน เพื่อรอโอกาสในการลงทุนครั้งใหม่
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ในหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในตัวอย่างด้านบน (หรือหลังจากนั้น) Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีทิศทางราคาที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดการเงินแบบเดิม อย่างตลาดหุ้นหรือตลาดซื้อขายล่วงหน้า อีกทั้งด้วยธรรมชาติของการที่ราคา Bitcoin มีความผันผวนที่สูงมาก
ทำให้ในท้ายที่สุดเป็นเรื่องที่เสี่ยงและไม่มีความจำเป็นที่นักลงทุนจะนำเงินทุนไปพักไว้ใน Bitcoin ถ้าหากต้องการรักษากำลังซื้อในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนในฐานะของ Safe Haven
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการที่ Bitcoin มีจุดเด่นในการที่ไม่มี Regulator ควบคุม ทำให้ Bitcoin สามารถถูกแทรกแซง (Manipulate) ได้ด้วยหลากหลายวิธีการ ทั้งวิธีการแบบดั้งเดิมและวิธีการที่ปกติไม่สามารถทำได้เพราะมี SEC (ก.ล.ต.) และกฎหมายคอยควบคุมอยู่ จึงกลายเป็นข้อด้อยอีกข้อที่ทำให้นักลงทุนรายใหญ่อีกไม่น้อยไม่นำเงินปริมาณมหาศาลมาวางทิ้งไว้เพื่อรักษามูลค่าใน Bitcoin
สรุป สาเหตุสำคัญที่พอจะบอกได้ว่า Bitcoin ยังไม่ใช่ Safe Haven Asset ณ ตอนนี้ (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การลงทุนที่แย่) คือ
- ความผันผวนที่มากเกินไป อย่างเช่น 40% ใน 7 วัน เหมือนในเคสด้านบนที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่ Bitcoin ยังไม่ถูกยอมรับในฐานะของสกุลเงิน
- ทิศทางราคาเป็นทิศทางเดียวกับตลาดการเงินแบบเดิม ๆ ตามที่ได้อธิบาย
แม้ว่าในปัจจุบัน Bitcoin อาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในฐานะของ Safe Haven แต่ไม่ได้หมายความว่า Bitcoin คือการลงทุนที่ไม่น่าลงทุนหรือให้ผลตอบแทนต่ำ Bitcoin ยังคงเป็นการลงทุนที่ทำผลตอบแทนสูง (เช่นเดียวกันกับความเสี่ยงที่สูง)
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อเงื่อนไขหลายอย่างลงตัวมากกว่านี้ ในอนาคตอันก็อาจจะทำให้ Bitcoin คือ Safe Haven ชนิดใหม่ก็ได้ หรือในอีกกรณีหนึ่งคือการที่มี Cryptocurrency ชนิดอื่นหรือใหม่ที่สามารถทำหน้าที่ Safe Haven ได้ดีกว่า