Black Swan คืออะไร?
Black Swan คือ หงส์ดำ ที่ใช้แทนเรื่องที่คนทั่วไปไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อนเพราะมีความเป็นไปได้ยากที่เหตุการณ์ในลักษณะของ Black Swan จะเกิดขึ้นได้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และมักถูกหาเหตุผลเข้าข้างตนเองภายหลังว่าสามารถคาดเดาได้มากกว่าที่เป็นจริงเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว
ตัวอย่าง Black Swan ที่เคยเกิดขึ้น ได้แก่ วิกฤต COVID-19 ที่ทำให้วิถีชีวิตของคนทั่วโลกต้องเปลี่ยนแปลงไป และเหตุการณ์ 9/11 ที่ทำให้มาตรฐานด้านความปลอดภัยหลายอย่างถูกยกระดับขึ้นมา เป็นต้น
Black Swan เป็นแนวคิดของ Nassim Nicholas Taleb นักคณิตศาสตร์สถิติและนักลงทุนชาวเลบานอน ที่เผยแพร่ครั้งแรกในหนังสือ “The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable,” ของเขาที่เผยแพร่ในปี 2007
โดยที่มาของ Black Swan (หงส์ดำ) คือ คำอุปมาอุปมัยในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ โดยการอ้างอิงถึงการที่ในอดีตทุกคนต่างเชื่อว่าหงส์ทุกตัวเป็นสีขาว จนกระทั่งในปี 1697 Willem de Vlamingh นักสำรวจชาวดัตช์ได้ค้นพบหงส์ดำในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
ซึ่งการค้นพบดังกล่าวได้ทำลายความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับหงส์ดำที่มีมาอย่างยาวนาน และพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้จริง
ในบริบทของตลาดการเงิน เหตุการณ์ Black Swan อาจหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ตลาดพังทลาย หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทฤษฎี Black Swan
แนวคิดเรื่อง Black Swan ของ Nassim Nicholas Taleb ได้อธิบายว่าเหตุการณ์ประเภทนี้ไม่สามารถคาดเดาได้โดยใช้แบบจำลองทางสถิติ และอาจมีผลกระทบที่ต่อสังคมและเศรษฐกิจ โดย Nassim Nicholas Taleb ได้กำหนดเงื่อนไขของเหตุการณ์ Black Swan ว่ามีลักษณะ 3 ประการ ได้แก่:
เป็นค่าผิดปกติ (Outlier) เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่อยู่อกขอบเขตของความคาดหวังตามปกติ เนื่องจากไม่มีสิ่งใดในอดีตที่สามารถชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ได้อย่างน่าเชื่อถือ กล่าวคือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสังคมในวงกว้าง อย่างเช่น เหตุการณ์วิกฤต COVID-19 ที่ทำให้วิถีชีวิตของคนทั่วโลกต้องเปลี่ยนแปลงไป
มันถูกหาเหตุผลเข้าข้างตนเองหลังจากข้อเท็จจริง เมื่อเหตุการณ์ Black Swan เกิดขึ้นแล้ว มักจะถูกหาเหตุผลเข้าข้างตนเองหรืออธิบายด้วยข้อเท็จจริงราวกับว่าเหตุการณ์นั้นสามารถคาดเดาได้
ตัวอย่าง Black Swan ในอดีต
ตัวอย่าง Black Swan ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ได้แก่:
วิกฤตซับไพรม์ (Subprime Crisis) เมื่อปี 2008 ที่นักลงทุนและคนทั่วไปเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีทางล้มเนื่องจากความเชื่อที่ว่า “ยังไงที่อยู่อาศัยก็เป็นที่ต้องการ” ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มาตรการหลายอย่างเกี่ยวกับการก่อหนี้รัดกุมมากขึ้น
เหตุการณ์ 9/11 ที่ทำให้มาตรฐานด้านความปลอดภัยหลายอย่างถูกยกระดับขึ้นมา
วิกฤต COVID-19 ที่ทำให้วิถีชีวิตของคนทั่วโลกต้องเปลี่ยนแปลงไป และกระตุ้นให้วิถีชีวิตบางอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น การ Work-from-Home และการประชุมออนไลน์ที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้น
จะเห็นว่าผลกระทบของ Black Swan อาจเป็นได้ทั้งด้านบวกและด้านลบ อย่างเช่น การคิดค้นอินเตอร์เน็ต และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ Black Swan ในอดีต
นอกจากนี้ เมื่อแนวคิดเกี่ยวกับ Black Swan ได้รับการยอมรับมากขึ้นในลักษณะที่ว่า “อะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิด ก็อาจจะเกิดขึ้นได้” ทำให้เกิดการคาดเดาถึงความเป็นไปได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากที่ในอดีตเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้
ตัวอย่างเช่น วิกฤตเศรษฐกิจครั้งต่อไป, สงครามโลกครั้งที่ 3, สงครามนิวเคลียร์, หรือแม้กระทั่งการค้นพบสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก