Brand Personality คือ บุคลิกภาพของแบรนด์ เป็นสิ่งที่ลูกค้ามองแบรนด์แล้วรู้สึกว่าแบรนด์มีบุคลิกภาพอย่างไร หรือรู้สึกอะไรจากแบรนด์ ถ้าพูดให้ง่ายกว่านั้น Brand Personality จะเหมือนกับการที่คุณมองคนคนหนึ่งแล้วคุณรู้สึกอย่างไรกับคนคนนั้นหรือรู้สึกว่าคนคนนั้นดูเป็นคนยังไง
โดยหน้าที่ของ Brand Personality จะเป็นสิ่งที่ใช้สะท้อนตัวตน และเอกลักษณ์ของแบรนด์ออกมา เพื่อให้คนรู้ว่าแบรนด์นี้ทำอะไร เก่งอะไร หรือโดดเด่นในด้านใด
ซึ่งประโยชน์ของ Brand Personality คือ หนึ่งในกลยุทธ์ Branding ที่จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถจดจำสินค้าได้
ประเภทของ Brand Personality
โดยแบรนด์ก็จะต้องเลือกว่าจะสร้างให้แบรนด์มีบุคลิกภาพ หรือ Brand Personality อย่างไรในการทำ Branding ซึ่งโดยทั่วไป Brand Personalities จะมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่:
Excitement คือ Brand Personality เกี่ยวกับ ความตื่นเต้น ความมีชีวิตชีวา ความไม่กังวล และความอ่อนเยาว์
ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มที่โฆษณาว่าดื่มแล้วสดชื่น
Competence เป็น Brand Personality เกี่ยวกับความเป็นผู้นำ ความเหนือกว่า ความล้ำหน้า ความสำเร็จ ความโดดเด่น ความแตกต่าง และความล้ำยุค
มักจะพบได้บ่อย ๆ ในแบรนด์เทคโนโลยี อย่างเช่น Apple Samsung และ Microsoft
Ruggedness เป็น Brand Personality ในด้านความแข็งแรง ความทนทาน การผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง การเผชิญกับสิ่งใหม่
ตัวอย่างเช่น Nike Adidas และ Timberland
Sincerity คือ Brand Personality เกี่ยวกับ ความจริงใจ ความอ่อนโยน ความอบอุ่น จริงใจ จะเป็นแบรนด์ในลักษณะที่เน้นสร้างความสบายใจหรือความไว้ใจให้กับผู้ใช้ มักจะวาง Brand Personality ในลักษณะของการเป็นเพื่อน
มักจะเป็นธุรกิจที่ต้องการความไว้วางใจจากลูกค้า อย่างเช่น บริษัทประกัน บริษัทการเงิน
Sophistication คือ Brand Personality ในลักษณะของความหรูหรา ความมีระดับ ความแพง และความเป็นสินค้า Hi-end
เห็นได้บ่อย ๆ จากสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง หรือแบรนด์ที่ขายสินค้าระดับ Hi-end อย่างเช่น Chanel Hermes Louis Vuitton Maserati และ Porsche เป็นต้น
และเมื่อแบรนด์เลือกที่จะสร้างให้แบรนด์มีบุคลิกภาพตามที่ต้องการได้แล้ว การทำการตลาดด้านอื่น ๆ ของ Brand ก็ควรที่จะต้องสอดคล้องกับ Brand Personality ไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้พรีเซนเตอร์ การตั้งราคา วิธีที่ใช้ในการส่งเสริมการขาย และการออกแบบหีบห่อของสินค้า เป็นต้น