GreedisGoods » Finance » ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร? และวิธีใช้สูตรดอกเบี้ยทบต้น

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร? และวิธีใช้สูตรดอกเบี้ยทบต้น

by Kris Piroj
ดอกเบี้ยทบต้น คือ สูตรดอกเบี้ยทบต้น Compound Interest คือ การ คิด ดอกเบี้ยทบต้นดอกเบี้ยทบต้น คือ สูตรดอกเบี้ยทบต้น Compound Interest คือ การ คิด ดอกเบี้ยทบต้น

ดอกเบี้ยทบต้น คืออะไร?

ดอกเบี้ยทบต้น คือ การที่จำนวนเงินจากดอกเบี้ยที่ได้รับในการลงทุนทำให้เงินต้นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่จะได้รับจากเงินต้นเพิ่มทบขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามเงินต้นที่เพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยที่ได้มาจากครั้งก่อนหน้า ตามชื่อดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)

พื้นฐานหลักการทำงานของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือการที่นำเงินไปลงทุน อย่างเช่น การฝากธนาคารแล้วดอกเบี้ยเงินฝากทำให้เงินในบัญชีคุณเพิ่มขึ้น และจำนวนเงินในบัญชีที่มากขึ้นทำให้ดอกเบี้ยที่คุณจะได้ในครั้งถัดไปมากขึ้น ทั้งที่อัตราดอกเบี้ยต่อปีที่ได้เท่าเดิม

ตัวอย่างเช่น ฝากเงิน 100 บาทเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยที่ได้รับดอกเบี้ยในอัตรา 10% ต่อไป นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเงินฝากในแต่ละปี

  1. สิ้นปีแรก เงินต้น 100 บาท + ดอกเบี้ย 10% (10 บาท)  = เงินต้นกลายเป็น 110 บาท
  2. สิ้นปีที่สอง เงินต้นกลายเป็น 110 บาท + ดอกเบี้ย 10% (เพิ่มเป็น 11 บาท) = เงินต้นกลายเป็น 121 บาท
  3. สิ้นปีที่สาม เงินต้นกลายเป็น 121 บาท + ดอกเบี้ย 10%  (เพิ่มเป็น 12.1 บาท) = เงินต้นกลายเป็น 133.1 บาท

จากตัวอย่างดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) จะเห็นว่าเมื่อได้ดอกเบี้ยก็จะทำให้เงินต้นเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเงินต้นเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย 10% เท่าเดิมจะทำให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้นจาก 10 บาทเป็น 11 บาททบไปเรื่อย ๆ ตามชื่อดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)

ดอกเบี้ยทบต้น คือ Compound Interest คือ ตัวอย่าง สูตร ดอกเบี้ยทบต้น
ตารางแจกแจงการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยทบต้นในตัวอย่างด้านบน

สูตรดอกเบี้ยทบต้น

สูตรดอกเบี้ยทบต้น คือเครื่องมือที่ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการคิดดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) ไปที 1 ปีจนครบจำนวนปีที่ต้องการอย่างเช่นตามตัวอย่างในตอนต้น ในขณะที่การใช้สูตรดอกเบี้ยทบต้นจะทำให้สามารถคำนวณดอกเบี้ยทบต้นกี่ปีก็ได้ในครั้งเดียว

โดยการคิดดอกเบี้ยทบต้นสามารถทำได้ด้วยการใช้สูตรคำนวณเดียวกันกับการหามูลค่าเงินตามเวลา (Time Value of Money) แบบ Future Value (FV) ที่เป็นการหามูลค่าเงินในอนาคต โดยวิธีการคิดดอกเบี้ยทบต้นสามารถทำได้โดยการแทนค่าลงในสมการ Future Value

ดอกเบี้ยทบต้น หรือ Future Value = PV x (1+i)n

สูตรดอกเบี้ยทบต้น คือ การคิดดอกเบี้ยทบต้น Compound Interest สูตร คำนวณ
สูตรดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)

FV คือ ผลของดอกเบี้ยทบต้น (Future Value) ที่ต้องการรู้คำตอบ

PV คือ มูลค่าเงินปัจจุบัน (Present Value) ซึ่งก็คือเงินต้นที่นำมาฝาก

i คือ ผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนหรือดอกเบี้ย (ต้องแปลง % เป็นทศนิยม) ที่ได้รับต่อครั้ง โดยอาจจะเป็นต่อปี ต่อเดือน หรือต่อหกเดือนขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการฝากเงิน

  • ดอกเบี้ยร้อยละ 100 หรือ 100% คือ 1.00
  • ดอกเบี้ยร้อยละ 51 หรือ 50% คือ 0.50
  • ดอกเบี้ยร้อยละ 5 หรือ 5% คือ 0.05

n คือ จำนวนปีที่ลงทุน หรือจำนวนครั้งที่คุณได้ดอกเบี้ยตลอดการฝากเงิน (ในกรณีที่ได้ดอกเบี้ยมากกว่าปีละ 1 ครั้ง)

  • ฝาก 10 ปีได้ดอกเบี้ยทุกเดือน n = 10 x 12 (เพราะใน 1 ปีมี 12 เดือน) = 120
  • ฝาก 5 ปีได้ดอกเบี้ยทุกครึ่งปี n = 5 x 2 (เพราะ 1 ปีจ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้ง) = 10

ตัวอย่าง การคิดดอกเบี้ยทบต้น

ตัวอย่างที่ 1 นาย J นำเงินจำนวน 60,000 บาทไปฝากธนาคารเป็นระยะเวลา 20 ปีได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยที่ไม่มีการฝากหรือถอนเงินจนกว่าจะครบ 20 ปี

จากตัวอย่างเมื่อแทนค่าลงสูตรดอกเบี้ยทบต้นจะได้เท่ากับ: 60,000 x (1+0.03)^20 = 108,367 บาท

เมื่อสิ้นสุดปีที่ 20 เงินของนาย J จะเพิ่มเป็น 108,367 บาทจากเงินต้น 60,000 บาท (เพิ่มขึ้น 48,367 บาทจากดอกเบี้ยทบต้น 20 ปี)

ตัวอย่างที่ 2 นาย K ฝากเงิน 100,000 บาทเป็นเวลา 10 ปี โดยได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน (หรือ 12% ต่อปี) โดยที่ไม่มีการฝากหรือถอนเงินระหว่างช่วงเวลา 10 ปี

จากตัวอย่างที่ 2 เมื่อทำการแทนค่าลงในสูตรดอกเบี้ยทบต้น จะได้เท่ากับ 100,000 x (1+0.01)^120 = 330,038 บาท

หลังจากสิ้นเดือนสุดท้ายในปีที่ 10 เงินฝากของนาย K จะเพิ่มขึ้นจาก 100,000 บาทเป็น 330,038 บาท โดยเงินจำนวนที่เพิ่มมา 230,038 บาท คือสิ่งที่ได้จากดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) ตลอด 10 ปีหรือ 120 เดือน (ทบ 120 ครั้ง)

ดอกเบี้ยทบต้นของเงินกู้

ในกรณีดอกเบี้ยทบต้นเงินกู้ ก็เป็นเรื่องเดียวกันกับดอกเบี้ยทบต้นที่ได้จากเงินฝากตามตัวอย่างด้านบนเช่นกัน ใช้วิธีคำนวณและ สูตรดอกเบี้ยทบต้น เหมือนกับกรณีตัวอย่างด้านบนทุกอย่าง

นั่นหมายความว่าถ้าคุณไม่ยอมจ่ายหนี้ 100,000 บาท ที่มีดอกเบี้ยร้อยละ 1% ต่อเดือนแล้วทิ้งไว้ 10 ปี (หรือ 120 เดือน) หนี้จาก 100,000 บาทก็จะกลายเป็น 330,038 บาท

นอกจากการนำดอกเบี้ยทบต้นมาใช้ในการคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้ การคิดดอกเบี้ยทบต้นยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการวางแผนคร่าว ๆ ของลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องและคุณจะไม่ดึงผลตอบแทนจากการลงทุนออกมาใช้ก่อนครบกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ได้ด้วยเช่นกัน

ดอกเบี้ยทบต้น คือ พลังของเวลาและดอกเบี้ย

จากตัวอย่างจะเห็นว่า ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือสิ่งที่ทำให้เงินจาก 100,000 เพิ่มขึ้นมากลายเป็น 330,038 ได้ โดยสิ่งที่ทำให้ดอกเบี้ยทบต้นมีพลังได้มากขนาดนี้ก็คือเวลานั่นเอง

ในขณะเดียวกันเวลาที่นานมากขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นข้อเสียของดอกเบี้ยทบต้นเช่นกัน เพราะการที่เงินจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 330,038 บาทตามตัวอย่างได้ ต้องใช้เวลามากถึง 10 ปี (และต้องได้ดอกเบี้ยปีละ 12%) ซึ่งความช้านี้เองที่อาจจะทำให้คุณดึงเงินออกมาใช้ก่อนเวลาอันควรจนทำให้การออมเงินหรือการลงทุนไปไม่ถึงเป้าหมาย

ดังนั้น เงินที่นำมาใช้วิธีการออมหรือลงทุนในลักษณะของดอกเบี้ยทบต้นควรเป็นเงินเย็นที่เป็นเงินส่วนที่แยกเอาไว้สำหรับการออมหรือการลงทุนอย่างจริงจังจึงจะเหมาะสมมากกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด