Cost Focus Strategy คือ กลยุทธ์เน้นทำให้การผลิตมีต้นทุน (Cost) ที่ต่ำ โดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าที่ขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Focus) ในลักษณะของสินค้าเฉพาะทางซึ่งความที่เป็นสินค้าจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง (Niche Market) ทำให้สินค้าหรือบริการในลักษณะของ Cost Focus สามารถตั้งราคาได้สูงกว่าธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ Cost Leadership
ซึ่งส่วนนี้เองคือสิ่งที่กลยุทธ์ Cost Focus แตกต่างจากกลยุทธ์ Cost Leadership หรือกลยุทธ์ผู้นำด้านต้นทุน ที่เน้นลดต้นทุนเพียงอย่างเดียว (และไม่ได้เน้นขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ Cost Focus Strategy จะเน้นขายให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่มหรือ Niche Market แต่สินค้าดังกล่าวก็ยังสามารถขายให้ลูกค้าทั่วไปได้เช่นกัน
โดย Cost Focus Strategy เป็น 1 ใน 4 กลยุทธ์จาก Porter’s Generic Strategies ของ Micheal E Porter ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Strategy) ตามหลักการจัดการเชิงกลยุทธ์
ตัวอย่าง Cost Focus Strategy
ตัวอย่างที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันพอสมควรสำหรับ กลยุทธ์ Cost Focus คือ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ที่จะเห็นว่าบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเป็นธุรกิจที่เน้นลดต้นทุนจากการที่คิดราคาแบบเหมา (และมีราคาค่อนข้างสูง) แต่ลูกค้าส่วนใหญ่กินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างได้ไม่เกินราคา ทำให้ธุรกิจทำกำไรจากส่วนนี้
และในส่วนของด้าน Focus ที่จะเห็นว่าบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างจะเน้นจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นกลุ่มที่ชอบกินแบบบุฟเฟ่ต์ กินครั้งละมาก ๆ
แต่ในความเป็นจริง ลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มที่ชอบกินบุฟเฟ่ต์หรือไม่ได้กินครั้งละมาก ๆ ก็สามารถมากินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างได้เช่นกัน
ข้อจำกัดของ กลยุทธ์ Cost Focus
ข้อจำกัดหลักของ Cost Focus Strategy คือการที่เน้นขายกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง (Niche Market) ทำให้ในบางครั้งตลาดอาจจะไม่ได้ใหญ่พอเหมือนกับธุรกิจบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างในตัวอย่างด้านบน
และถึงแม้ว่าฐานลูกค้าจะใหญ่เหมือนกับบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างในตัวอย่างด้านบน แต่ถ้าหากเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ซับซ้อนและเป็นธุรกิจต้นทุนต่ำ ทำให้ในบางธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์แบบ Cost Focus เป็นธุรกิจประเภทที่มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาแข่งกับเราได้ง่าย ๆ เหมือนกับบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่มีอยู่เต็มไปหมดในปัจจุบัน
ซึ่งจำนวนคู่แข่งที่มากขึ้นในท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่การตัดราคาแข่งกันในท้ายที่สุดในลักษณะของ Red Ocean