GreedisGoods » Investment » Credit Rating คืออะไร? เข้าใจอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้

Credit Rating คืออะไร? เข้าใจอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้

by Kris Piroj
Credit Rating คือ อันดับความน่าเชื่อถือ ตราสารหนี้ พันธบัตร หุ้นกู้ CRA

Credit Rating คืออะไร?

Credit Rating คือ อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ ที่ใช้แสดงระดับความสามารถในการชำระหนี้โดยประเมินจากระดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ (Debt Instrument) โดยในแต่ละระดับของ Credit Rating จะบ่งบอกถึงการที่ตราสารหนี้นั้นมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้มากน้อยเพียงใด

การจัดอันดับ Credit Rating จะเกิดขึ้นจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เรียกว่า Credit Rating Agency (CRA) อย่างเช่น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัด ในประเทศไทย หรืออย่างบริษัท Standard & Poor’s ที่เป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยปัจจัยที่นำมาใช้ในการจัดอันดับ Credit Rating มักจะเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ (รัฐบาล บริษัท รัฐวิสาหกิจ) ซึ่งพิจารณาจากฐานะการเงิน ประวัติการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีต และความแข็งแกร่งด้านรายได้ของผู้ออกตราสารหนี้

เมื่อบริษัทจัดอันดับ Credit Rating พิจารณาจากข้อมูลเหล่านั้น ก็จะจัดอันดับผู้ออกตราสารหนี้ออกมาเป็นระดับตามวิธีการจัดอันดับของแต่ละผู้จัดอันดับ โดยทั่วไปจะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ A ถึง D ซึ่ง Credit Rating ทางฝั่ง A คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด และ Credit Rating ฝั่ง D คือ Credit Rating กลุ่มที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงที่สุด (โดยที่ D คือ Default ที่หมายถึงการผิดนัดชำระหนี้)

นอกจากนี้ Credit Rating ยังแสดงถึงผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากตราสารหนี้ดังกล่าว ซึ่งผลตอบแทนของตราสารหนี้ก็จะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับระดับ Credit Rating โดยที่ตราสารหนี้ที่ Credit Rating ต่ำที่สุดจะให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุด (แลกกับความเสี่ยงที่สูง) ในขณะที่ตราสารหนี้ที่มีระดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดจะให้ผลตอบแทนต่ำที่สุด (แต่ความเสี่ยงต่ำที่สุด)

และในทางกลับกัน ในมุมมองของผู้ออกตราสารหนี้ (Debt Instrument) อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้หรือ Credit Rating คือสิ่งที่หมายถึงต้นทุนทางการเงินในการออกตราสารหนี้ เพราะผู้ออกตราสารหนี้อย่างบริษัทเอกชนที่ออกหุ้นกู้ (Debenture) คือผู้ที่จ่ายดอกเบี้ยให้กับนักลงทุน ยิ่งบริษัทของพวกเขามีความเสี่ยงสูง ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้นักลงทุนเพื่อชดเชยความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงตาม

Credit Rating มีอะไรบ้าง?

Credit Rating จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มตามระดับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ ได้แก่

  • Investment Grade คือ Credit Rating กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ต่ำ ผลตอบแทนต่ำ
  • Non-investment Grade หรือ Speculative Grade คือ Credit Rating กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำหนี้สูง แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

โดย Credit Rating จะถูกแบ่งตามตัวอักษรภาษาอังกฤษที่แสดงถึงโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่างกัน โดย AAA จะเป็นระดับ Credit Rating สูงที่สุด (โอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำที่สุด) และ C หรือ CCC จะเป็นระดับความน่าเชื่อถือต่ำที่สุด แต่อย่างไรก็ตามตัวอักษรเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ซึ่งในบางกรณี Credit Rating ก็จะมีเครื่องหมาย + และเครื่องหมาย – เติมเข้าไปอีก อย่างเช่น AAA+ เพื่อทำให้สามารถแยกอันดับ Credit Rating ได้ละเอียดและกว้างยิ่งขึ้นจากแบบปกติ

ตลอดจน Credit Rating ที่ใช้ตัวอักษรบอกระดับ Credit Rating นอกเหนือจากนี้ อย่างเช่น RD หรือ Restricted Default ของ Fitch Rating ที่หมายถึง กลุ่มที่ผิดนัดชำระหนี้ แต่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยื่นฟ้องล้มละลาย พิทักษ์ทรัพย์ หรือการเลิกกิจการอย่างเป็นทางการอื่น ๆ

Credit Rating คือ อันดับความน่าเชื่อถือ ตราสารหนี้ Credit Rate AAA BBB Default หุ้นกู้ พันธบัตร
ความเสี่ยง (Risk) และผลตอบแทน (Return) ของ Credit Rating แต่ละระดับ

Credit Rating ในกลุ่ม Investment Grade

Credit Rating ในกลุ่ม Investment Grade คือ กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือสูงเนื่องจากมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำ โดย AAA หรือ AAA+ จะเป็นระดับ Credit Rating ที่ดีที่สุดของ Credit Rating ทั้งหมดและของกลุ่ม Investment Grade ซึ่งอันดับที่ต่ำที่สุดใน Investment Grade มักจะเป็น BBB หรือ BBB-

โดย Credit Rating แต่ละระดับในกลุ่ม Investment Grade มีความหมาย ดังนี้

  • AAA คือ Credit Rating ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด (เรียกว่า Prime) เป็นกลุ่มที่โอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำที่สุด
  • AA เป็นกลุ่ม High Grade ที่ความเสี่ยงต่ำมาก เป็นกลุ่มที่มักจะถูกมองว่ามีความอ่อนไหวต่อความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกต่ำ
  • เป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำ (หรือความเสี่ยงปานกลางค่อนไปทางต่ำ) แม้ว่าโอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำ แต่ก็ยังคงอ่อนไหวต่อความไม่แน่นอนอยู่บ้าง
  • BBB คือ Credit Rating ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลางจากการผิดนัดชำระหนี้ เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในกลุ่ม Investment Grade ที่เป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าว่า Credit Rating ในกลุ่ม Investment Grade จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีคำแนะนำในการลงทุนมากมายแนะนำให้ลงทุนในกลุ่ม Investment Grade แต่ก็ยังมีโอกาสที่ผู้ออกตราสารหนี้ในระดับ Investment Grade เหล่านี้ (รวมถึง AAA และ AAA+) จะผิดนัดชำระหนี้ (Default) ได้อยู่ดี ในท้ายที่สุดจึงเป็นหน้าที่ของนักลงทุนในการพิจารณาอย่างรอบคอบและติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Credit Rating ในกลุ่ม Non-investment Grade

Credit Rating ในกลุ่มที่มีระดับต่ำว่า BBB ลงมาจะเรียกว่า Non-investment Grade หรือ Speculative Grade ที่ให้ผลตอบแทนสูง (ที่บางครั้งอาจให้ผลตอบแทนในระดับหลายสิบเปอร์เซ็นต์) แต่แลกกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงมากเช่นกัน

โดย Credit Rating แต่ละระดับในกลุ่ม Non-investment Grade มีความหมาย ดังนี้

  • BB คือ Credit Rating ความเสี่ยงสูง แต่ยังถือว่าเป็นระดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในกลุ่ม Credit Rating ความเสี่ยงสูง
  • B ความเสี่ยงสูงมาก
  • C คือ Credit Rating ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด
  • D คือ Default เป็นตราสารหนี้ที่อยู่ในสถาณะผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ Credit Rating ในกลุ่มนี้ในบางผู้จัดอันดับ Credit Rating อาจเริ่มตั้งแต่ BB+ หรือ BB ขึ้นอยู่กับการแบ่งกลุ่มโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency : CRA)

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด