Future Value คืออะไร?
FV คือ Future Value หมายถึง มูลค่าเงินในอนาคต เป็นมูลค่าของเงินจำนวนหนึ่งที่จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในอนาคตเมื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนและได้ผลตอบแทน (Interest) อย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดระยะเวลาของการลงทุน
Future Value หรือ FV เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สำหรับการวางแผนการลงทุนด้วยการคำนวณหามูลค่าของเงินลงทุนจำนวนหนึ่งเมื่อนำไปลงทุนในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ (Fixed Rate) ว่าจะกลายเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ในอนาคตด้วยผลของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest)
ตัวอย่างเช่น การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล การลงทุนในหุ้นกู้ ตลอดจนการฝากเงินกับธนาคาร เพื่อหาว่าเงินต้นที่ได้ลงทุนไป เมื่อเวลาผ่านไปจะมีมูลค่าเท่าไหร่ในอนาคต
นอกจากนี้ ในอีกกรณีของการใช้ประโยชน์สูตร Future Value หรือ FV คือการหามูลค่าของหนี้ที่ต้องจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ในกรณีที่มีการค้างชำระหนี้เป็นเวลานานโดยมีดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่
ตัวอย่างเช่น การที่นางสาว B ค้างชำระหนี้ 10,000 บาท 7 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 5 ต่อปี เมื่อสิ้นปีที่ 7 หนี้ก้อนนี้ของนางสาว B จะกลายเป็นเท่าไหร่
วิธีหา Future Value (FV)
วิธีคำนวณหา Future Value (FV) เพื่อหามูลค่าเงินในอนาคต สามารถทำได้โดยแทนค่าลงไปในสมการของสูตร FV หรือ Future Value = PV x (1+i)^n
จากสมการแต่ละตัวแปรมีความหมายดังนี้
- PV (Present Value) คือ มูลค่าเงิน ณ ปัจจุบันก่อนที่จะนำเงินไปลงทุน (เงินต้น)
- i คือ ผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุน (แปลง % เป็นทศนิยม)
- n คือ จำนวนปีที่นำเงินไปลงทุน (หรือจำนวนครั้งที่ได้ผลตอบแทนตลอดการลงทุน)

ตัวอย่างที่ 1 กรณีการลงทุน นางสาว C นำเงินต้น 10,000 บาทฝากธนาคารเป็นเวลา 7 ปี โดยที่ธนาคารให้ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) ในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี มาดูกันว่าเงินของนางสาว C เมื่อสิ้นปีที่ 7 ของการฝากเงินจะมีค่าเท่าไหร่
มูลค่าเงินในอนาคตของนางสาว C หรือ FV จะเท่ากับ Future Value = 10,000 x (1 + 0.05)^7 = 14,071
จากตัวอย่างจะเห็นว่า เมื่อสิ้นปีที่ 7 ของการฝากเงิน Future Value หรือ มูลค่าเงินในอนาคต คือ 14,071 บาท เมื่อเขียน Future Value หรือ FV ของตัวอย่างด้านบนออกมาเป็นเส้นเวลาได้ดังนี้

ตัวอย่างที่ 2 กรณีของดอกเบี้ยเงินกู้ สมมติว่านางสาว D กู้เงิน 100,000 บาทและผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี สามารถหายอดหนี้ของนางสาว D เมื่อสิ้นปีที่ 7 ได้โดยแทนค่าลงในสมการ Future Value = 100,000 x (1 + 0.05)^7 = 140,710 บาท (เข้าใจถูกแล้วครับ 40,710 บาทคือดอกเบี้ย)
การหา FV กรณีไม่ใช่ผลตอบแทนรายปี
อย่างไรก็ตาม ในชีวิตจริงการลงทุนบางอย่างอาจจะไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยแค่ปีละครั้งเท่านั้น แต่อาจจะจ่ายผลตอบแทนทุกไตรมาส ทุกเดือน หรือทุกครึ่งปี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ยังสามารถหาได้ด้วยสูตร FV หรือ Future Value เหมือนเดิม เพียงแต่จะต้องแปลงจำนวน n ให้ได้เท่ากับจำนวนครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ย
- ถ้าจ่ายดอกเบี้ยรายปีเป็นเวลา 6 ปี n = 6 x 1 = 6 ครั้ง เพราะจ่ายปีละครั้ง (กรณีรายปีปกติ)
- ถ้าจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนเป็นระยะเวลา 6 ปี n = 6 x 12 = 72 ครั้ง (เพราะ 1 ปีมี 12 เดือน)
- ถ้าจ่ายดอกเบี้ยรายทุก 3 เดือน (ไตรมาส) เป็นเวลา 6 ปี n = 6 x 4 = 20 ครั้ง (เพราะใน 1 ปีมีทั้งหมด 4 ไตรมาส)
จากตัวอย่างเดิม สมมติว่าคราวนี้นางสาว D ได้ผลตอบแทน 5% ทุก 6 เดือนเป็นเวลา 5 ปีจะสามารถคำนวณได้ดังนี้: PV = 500,000 ÷ (1+0.05)^12 = 278,419 บาท
FV สำหรับการหาเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ (Inflation) คือการที่มูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปเพราะราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อย่างเช่น เงินเฟ้อ 2% ต่อปีหมายความว่าราคาสินค้าเพิ่มขึ้นปีละ 2% ทำให้เงิน 100 บาทในปีนี้ไม่สามารถซื้อสินค้าที่ราคา 100 บาทได้อีกแล้ว (เพราะปีนี้ราคาเพิ่มเป็น 102 บาท)
Future Value หรือ FV เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้คำนวณหามูลค่าเงินในอนาคตของเงินจำนวนหนึ่งที่ถือไว้เฉย ๆ โดยไม่นำไปลงทุนว่าจะมีมูลค่าที่แท้จริงเหลืออยู่เท่าไหร่ในอนาคตเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ โดยสามารถใช้ FV คำนวณได้โดยปรับสูตรคำนวณเล็กน้อยเป็น Future Value = PV x (1 – i)^n (เปลี่ยนจาก +i เป็น -i)
ตัวอย่างเช่น นาย A ทิ้งเงิน 1 ล้านบาทเอาไว้โดยไม่ลงทุนเป็นเวลา 10 ปี โดยอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่นาย A อาศัยอยู่คือ 2% ต่อปี จะสามารถคำนวณได้ดังนี้ Future Value = 1,000,000 x (1 – 0.02)^10 = 817,073 บาท
หมายความว่า ถ้านาย A ไม่นำเงิน 1 ล้านบาทไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ เงินจำนวนนี้ของนาย A จะมีค่าลดลงเหลือเท่ากับ 817,073 บาทในปัจจุบัน ในอีก 10 ปีข้างหน้า