GreedisGoods » Business » GE Model คืออะไร? และตาราง GE Matrix

GE Model คืออะไร? และตาราง GE Matrix

by Kris Piroj
GE Model คือ GE Matrix คือ McKinsey การจัดการเชิงกลยุทธ์

GE Model คือ ตาราง 9 ช่องที่เรียกว่า GE Matrix ซึ่งจะแสดงการเลือกใช้กลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Strategy) โดยพิจารณาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ความน่าดึงดูดของอุตสาหกรรม (Industry Attractiveness) และความแข็งแกร่งของธุรกิจ (Business Unit Strength)

Industry Attractiveness คือ ความน่าดึงดูดของอุตสาหกรรม หมายถึง อุตสาหกรรมหรือตลาดนั้น ๆ อยู่ในระดับใดน่าลงทุนมากน้อยเพียงใด 

Business Unit Strength คือ ความแข็งแกร่งของธุรกิจหากเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ธุรกิจของเราอยู่ตรงจุดไหน (เรียกว่า Competitive Position)

โดย GE Model หรือ GE Matrix คิดค้นโดย McKinsey บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับ Top 3 ของโลก (เจ้าของเดียวกับทฤษฎี 7s McKinsey) โดยชื่อ GE ย่อมาจาก General Electric เป็นบริษัทที่จ้างบริษัท McKinsey เป็นที่ปรึกษาเมื่อช่วง 1970s ที่ทำให้เกิด GE Model และ GE Matrix ขึ้นมา


GE Matrix และ GE Model

GE Model จะใช้ตาราง 9 ช่องของ GE Matrix ที่เกิดจากการตัดกันของปัจจัย Industry Attractiveness และ Business Unit Strength เพื่อเลือกกลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Strategy) ที่เหมาะสม

ดังนั้น อันดับแรกการจะเลือกใช้กลยุทธ์ด้วย GE Matrix ได้จะเริ่มจากการวิเคราะห์ Industry Attractiveness และ Business Unit Strength ด้วยเครื่องมือทางกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับให้คะแนนในแต่ละด้านว่ามีภาพรวมอยู่ในระดับสูง กลาง หรือต่ำ

Industry Attractiveness จะมาจากการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกและการวิเคราะห์อุตสาหกรรม ด้วยเครื่องมืออย่างเช่น Five Forces Analysis และ EFAS

Business Unit Strength จะมาจากการวิเคราะห์ปัจจัยภายในของธุรกิจ อย่างเช่น Value Chain, 7s McKinsey, และ IFAS

ตัวอย่าง GE Model คือ กลยุทธ์ GE Matrix คือ McKinsey
ตาราง GE Matrix ทั้ง 9 ช่อง (หัวลูกศรคือมีผลสูง และหางลูกศรคือมีผลต่ำ)

Growth Strategy or Invest

กลยุทธ์ที่จะใช้กับธุรกิจที่ตรงตามช่องสีเขียวจะเป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับการเติบโตและการลงทุนเพิ่ม เพื่อทำให้ธุรกิจที่ดีอยู่แล้วดีที่สุดหรือดียิ่งขึ้นไปอีก หรือขยายไปยังธุรกิจอื่น

จากตาราง GE Matrix จะเห็นว่าช่องสีเขียวจะมีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่อยู่ในระดับปานกลางในขณะที่อีกปัจจัยอยู่ในระดับสูง นั่นหมายความว่าองค์กรยังสามารถที่จะขยายต่อไปได้อีกในส่วนส่วนที่ยังอยู่ในระดับปานกลาง

อ่านเพิ่มเกี่ยวกับกลยุทธ์การเติบโต – Growth Strategy


Stability Strategy

ช่องสีเทาจะเป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับการ Stability Strategy หรือ กลยุทธ์แบบคงตัว โดยอาจเป็นการหยุดการขยายธุรกิจชั่วคราวเพื่อปรับปรุงหรือแก้ปัญหาภายในองค์กรให้เรียบร้อยก่อนจะขยายธุรกิจต่อไป

เป็นผลจากการที่บริษัทเกิดปัญหาบางอย่างโดยมากจะเป็นปัญหาชั่วคราว เช่น ไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้จนทำให้บริษัทขาดทุนทั้งที่ขายสินค้าได้ปกติ หรือเป็นผลจากการที่ตลาดอยู่ในช่วงชะลอตัวทำให้การขยายกิจการในช่วงนี้ยังไม่คุ้ม

อย่างไรก็ตาม ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขได้อาจทำให้บริษัทต้องใช้กลยุทธ์ Retrenchment Strategy ต่อไป

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์คงที่ – Stability Strategy


Retrenchment Strategy or Divestment

ช่องสีแดงจะเป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับการลดการดำเนินงานหรือลดการลงทุนในส่วนที่ไม่ทำกำไร (Retrenchment Strategy) เนื่องจากช่องสีแดงคือจุดที่ต่ำที่สุดของทั้ง 2 ด้านใน GE Matrix

เป็นกรณีที่แย่ที่สุดของตาราง GE Matrix  โดยจากตารางจะเห็นว่าองค์กรอยู่ในระดับต่ำและปานกลางในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งหรือทั้ง 2 ปัจจัย อธิบายให้ง่ายกว่านั้นก็คือ สิ่งที่ดีที่สุดที่มีเป็นเพียงระดับปานกลางเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ถอนการลงทุน – Retrenchment Strategy

บทความที่เกี่ยวข้อง