Inbound Marketing คือ การตลาดที่มุ่งเน้นการทำให้ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์เอง แทนที่จะเข้าไปหาลูกค้าแบบ Outbound Marketing (เหมือนกับการตลาดแบบ Pull Marketing นั่นเอง)
สำหรับที่มาของ Inbound Marketing เป็นผลมาจากการที่ Outbound Marketing ซึ่งเป็นการผลักสินค้าหาผู้บริโภคด้วยการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ด้วยช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณาบนเว็บ บนทีวี การออกบูธ การทำ Email Marketing หรือโฆษณา Billboard ไม่ได้ผลดีอีกต่อไป
เนื่องจาก ในปัจจุบันเพราะผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป การยัดเยียดโฆษณาหรือสิ่งที่แบรนด์อยากพูดใส่ลูกค้าอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ทำให้ลูกค้าเชื่อหรือรู้สึกอยากซื้ออีกต่อไป กลับกันการกระทำดังกล่าวทำให้ลูกค้าจำนวนไม่น้อยรู้สึกรำคาญ (และรู้สีกเลี่ยนกับแบรนด์ดังกล่าว)
ตัวอย่างที่ใกล้เคียงประเด็นนี้ที่สุด ขอยกตัวอย่างเป็นห้างสรรพสินค้า 2 แห่งที่ชอบเปิดโฆษณาสินค้าบางอย่างซ้ำๆ วนไปวนมา ให้คนที่เดินเลือกซื้อสินค้าฟัง
คำถามคือ นั่นทำให้คุณอยากซื้อสินค้านั้นมากขึ้นบ้างไหม ?
นอกจากนี้ ผลพลอยได้จากการใช้ Inbound Marketing แทน Outbound Marketing คือค่าใช้จ่ายในการโฆษณาลดลง (หรือไม่มี)
Inbound Marketing ทำอย่างไร ?
อย่างที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า Inbound Marketing คือ การทำให้ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์
ทำให้เครื่องมือที่สำคัญของ Inbound Marketing ก็คือ Content ที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์เอง
ตัวอย่างเช่น บริษัทรับทำบัญชีบางบริษัทที่เขียน Content เกี่ยวกับบัญชีลง Website ของบริษัท (หรือช่องทางอื่นๆ)
เมื่อลูกค้าหรือผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบัญชีค้นหาเกี่ยวกับปัญหาด้านบัญชีดังกล่าว ลูกค้าก็จะพบกับ Content ดังกล่าว และรับรู้ว่ามีบริษัทให้บริการด้านบัญชีบริษัทนี้อยู่
ส่งผลให้ลูกค้าคนดังกล่าวอาจจะเลือกใช้บริการบริษัทบัญชีนี้หรือเก็บบริษัทนี้ไว้เป็นตัวเลือก หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือการรับรู้ว่ามีบริษัทนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม ช่องทางในการ Content ดังกล่าวก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงบน Website เท่านั้น แต่สามารถทำได้ทั้ง Facebook Line Instagram YouTube หรือทาง Social Media อื่นๆ
แต่มีเงื่อนไขคือ จะต้องเป็นช่องทางที่กลุ่มลูกค้าของคุณจะเข้ามาเจอ Content ได้