Mass Market คืออะไร?
Mass Market คือ การเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) ด้วยการเลือกกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด (Mass) เป็นการเลือกเป้าหมายในการขายสินค้าแบบจำนวนมากและไม่เฉพาะเจาะจงมาก หรือไม่เลือกในบางผลิตภัณฑ์ ตามชื่อ Mass ที่แปลว่า มวลหรืออะไรที่มีจำนวนมาก
เรียกได้ว่า ตลาดมวลชน หรือ Mass Market คือการขายที่เน้นปริมาณ (Quantity) แต่ไม่ได้เน้นคุณภาพเป็นหลัก (Quality) และการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เหมือนกับ Niche Market และอาจเรียกได้ว่า Mass Market เป็นการเลือกกลุ่มลูกค้าที่ตรงข้ามกับ Niche Market ที่เป็นการเลือกกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง
การตลาด Mass Marketing เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในอดีต เนื่องจากในอดีตการผลิตมุ่งไปที่การผลิตสินค้าจำนวนมาก เพื่อให้ได้ Economies of Scale (การประหยัดต่อขนาด) ที่จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงเมื่อผลิตสินค้าออกมาในปริมาณที่มาก
เมื่อผลิตสินค้าออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้จำเป็นที่ต้องหาลูกค้าจำนวนมากเพื่อซื้อสินค้าทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Mass Market จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับการขายสินค้าจำนวนมาก
สินค้าอะไรบ้างเลือก Mass Market
จากการที่ Mass Market เป็นการเลือกกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากหรือทั้งหมด ทำให้ลักษณะของสินค้าเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็น Mass Market คือสินค้าซื้อง่ายและใครๆ ต่างก็ใช้สินค้าดังกล่าว ทำให้โดยส่วนมากสินค้าที่เลือกกลุ่มเป้าหมายแบบ Mass Market มักจะเป็นสินค้าในกลุ่ม FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทุกคนใช้กันในชีวิตประจำวัน (แต่ก็ไม่ใช่ว่าสินค้า FMCG ทุกอย่างจะจับกลุ่ม Mass Market) ตัวอย่างเช่น
สบู่ ที่ทุกคนต้องใช้ในการอาบน้ำทุกวัน
Pepsi และ Coca Cola ที่ดื่มกันได้ทุกเพศทุกวัย
เครื่องเขียน ที่ใช้กันทุกกลุ่มไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่นักเรียนและนักศึกษา
Gmail ในปัจจุบันทุกคนต้องใช้ Email ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่
Facebook เป็น Social Network ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย
Mass Market คือตลาดล่างหรือเปล่า?
ถือเป็นเรื่องที่มีคนเข้าใจผิดกันอยู่ไม่น้อย สำหรับการเข้าใจว่า ตลาดล่าง กับ Mass Market คือเรื่องเดียวกัน ซึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าตลาดล่างเป็นเรื่องเดียวกับ Mass Market อาจจะมาจากการที่เห็นว่ากลุ่มคนที่กำลังซื้อต่ำ (กลุ่มลูกค้าตลาดล่าง) ทั่วไปมักจะใช้สินค้าที่เป็นสินค้าที่จับกลุ่ม Mass Market
อย่างไรก็ตาม คำตอบของประเด็นนี้ก็คือ Mass Market ไม่ใช่ ตลาดล่าง (Low End)
อย่างที่อธิบายเอาไว้ในตอนต้นว่า Mass Market เป็นการเลือกกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มเป็นจำนวนมาก ส่วนตลาด Low-end Market จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างต่ำเพียงกลุ่มเดียว จะเห็นว่าว่าลูกค้าที่มีกำลังซื้อปานกลางไปถึงสูงก็ซื้อสินค้าในกลุ่ม Mass Market ได้เช่นกัน
กล่าวคือ Mass Market กับตลาดล่างเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นคนละเรื่องกัน แม้ว่าอาจจะสามารถคาบเกี่ยวกันได้บ้างในบางครั้ง
ข้อดีของ Mass Market
มีลูกค้าให้ขายสินค้าอย่างแน่นอน ไม่ต้องค้นหาลูกค้ามากเหมือน Niche Market เนื่องจากสินค้าที่จับ Mass Market เป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่ใช้เป็นปกติอยู่แล้ว
สินค้าขายง่าย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องใช้ เรียกได้ว่าถ้าหากสินค้าไม่คุณภาพแย่จริง ๆ และพอเป็นที่รู้จักยังไงก็มีคนซื้อ (แต่มีคนซื้อมากแค่ไหน คืออีกประเด็น)
ยิ่งผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำ ยิ่งได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในข้อเสียของ Mass Market จะบอกไว้ว่าสินค้ากลุ่มนี้มักจะเกิดสงครามราคา แต่อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดสินค้าเหล่านี้มักจะตั้งราคาใกล้กัน ดังนั้นผู้ที่ต้นทุนต่ำกว่าจะมีกำไรมากกว่าและกลายเป็นผู้ชนะในระยะยาว
ข้อเสียของ Mass Market
สงครามราคา สินค้าที่จับกลุ่ม Mass Market ส่วนใหญ่มักจะแข่งขันกันด้วยราคา จนนำไปสู่ Red Ocean ที่ตัดราคากันไปมาและมีเพียงแต่ผู้ที่เงินทุนหนากว่า (สายป่านยาวกว่า) สามารถยืนอยู่ได้นานจนคู่แข่งขาดทุนและแพ้ไป
ต้นทุนสูง โดยต้นทุนส่วนใหญ่จะหมดไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ เนื่องจากสินค้าที่จับกลุ่ม Mass Market ส่วนใหญ่จะเหมือนกัน ทางออกของการที่จะขายสินค้าได้ก็คือการส่งเสริมการขาย (Promotion) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า นอกจากนี้การที่มีกลุ่มลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมากก็กลายเป็นดาบสองคมในประเด็นการโฆษณาสินค้า เพราะเมื่อมีลูกค้าเป็นคนกลุ่มใหญ่ การเข้าถึงลูกค้าเหล่านั้นทั้งหมด จึงจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการโฆษณาที่สูงตาม
ไม่เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนที่ไม่มาก จาก 2 เหตุผลด้านบนทำให้การจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่อย่าง Mass Market จำเป็นที่จะมีต้นทุนมากในระดับหนึ่ง เพื่อหมดไปกับการส่งเสริมการตลาด ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณา หรือ การลด แลก แจก แถม โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มต้นเข้าสู่ตลาด