GreedisGoods » Economics » NPL คืออะไร? ตัวเลขหนี้เสีย Non Performing Loan บอกอะไร

NPL คืออะไร? ตัวเลขหนี้เสีย Non Performing Loan บอกอะไร

by Kris Piroj
NPL คือ หนี้เสีย ตัวเลข Non Performing Loan คือ หนี้ Non Profit Loan

NPL คืออะไร?

NPL คือ สินเชื่อด้อยคุณภาพหรือสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non Performing Loan) เป็นสินเชื่อที่นอกจากจะไม่ทำให้เกิดกำไรกับผู้ปล่อยกู้ อีกทั้งยังทำให้ผู้ปล่อยกู้สูญเงินต้นที่ปล่อยกู้ไปด้วย ซึ่งเป็นผลจากการค้างชำระหนี้หรือผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้

โดย Non Performing Loan หรือ NPL ตามความหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อธิบายไว้ว่า NPL หมายถึง สินเชื่อที่ค้างชำระมากกว่า 90 วันติดต่อกัน (3 เดือนติดต่อกัน) เรียกว่า อยู่ในช่วงของการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งนำไปสู่การถูกยึดสินทรัพย์ที่ผู้กู้ใช้เป็นหลักประกันและสินทรัพย์ดังกล่าวกลายเป็น NPA (Non Performing Asset)

กล่าวคือ NPL (Non-Performing Loan) เป็นหนี้เสียที่ลูกหนี้ไม่จ่ายเมื่อครบกำหนดเวลาชำระหนี้มากกว่า 3 เดือนติดต่อกันนั่นเอง และในมุมของลูกหนี้คือสถานะผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้

ตัวเลข NPL ในระบบเศรษฐกิจหนึ่งเป็นตัวเลขที่รวบรวมมากจากหนี้ที่ค้างชำระและผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น ตัวเลข NPL จึงเป็นตัวเลขที่จะบอกความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในภาพรวมของทั้งเศรษฐกิจดังกล่าว หาก NPL มีค่าสูง หมายความว่า ลูกหนี้มีการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก และในทางกลับกันหากตัวเลข NPL มีค่าต่ำ หมายความว่า ลูกหนี้มีการผิดนัดชำระหนี้จำนวนน้อย

โดยในประเทศไทยผู้ที่รวบรวมข้อมูล NPL คือธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ซึ่งการรวบรวมตัวเลข NPL หรือหนี้เสียเหล่านี้มาจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่น ๆ ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วนำตัวเลข NPL (Non Performing Loan) ที่ได้มารวมกันเป็นมูลค่าทั้งระบบ

สามารถติดตามมูลค่า NPL ในประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ซึ่งจะรายงานมูลค่าหนี้เสีย NPL ของไทย โดยแบ่งเป็น Gross NPL และ Net NPL ซึ่งมีการจำแนกข้อมูลตามการแบ่งกลุ่มของข้อมูล

  • Gross NPL คือยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ทั้งหมด
  • Net NPL คือยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพหลังหักยอดตั้งสำรองของสถาบันการเงินออกแล้ว

หมายเหตุ: เนื่องจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการปรับปรุง ทำให้ปัจจุบันเรายังคงหาหน้าสถิติ Net NPL ไม่พบ

ตัวเลข NPL บอกอะไร?

ตัวเลข Non-Performing Loan หรือ NPL ของระบบเศรษฐกิจหนึ่งเป็นตัวเลขที่ใช้เป็นดัชนีแสดงถึงการผิดนัดชำระหนี้ เพราะตัวเลข Non Performing Loan เกิดจากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

ดังนั้น การที่ตัวเลข NPL เพิ่มสูงขึ้น หมายถึง การที่ลูกหนี้จำนวนมากผิดนัดชำระหนี้ ณ ขณะนั้น และแนวโน้มของการที่ลูกหนี้มีโอกาสจะไม่จ่ายหนี้สูงในช่วงเวลาดังกล่าว ในทางกลับกันถ้าหากตัวเลข NPL อยู่ในระดับที่ต่ำ หมายถึง มีการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ

ในส่วนนี้ทำให้ผู้ปล่อยเงินกู้อย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่น ๆ จะรู้สึกไม่อยากปล่อยกู้ในช่วงที่ตัวเลข NPL สูง เพราะกลัวเงินกู้ดังกล่าวจะกลายเป็นหนี้เสีย เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริงธนาคารและสถาบันการเงินเหล่านี้ก็จะเข้มงวดกับการปล่อยกู้มากขึ้นตามตัวเลข NPL ที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ตัวเลข NPL ที่สูงขึ้นดังกล่าวก็อาจส่งสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ถดถอยได้ด้วย เพราะตามปกติลูกหนี้จะพยายามหาเงินมาจ่ายหนี้อยู่แล้วเพื่อป้องกันการถูกยึดทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

การที่ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก อาจไม่ใช่ว่าลูกหนี้ไม่อยากจ่าย แต่อาจเป็นเพราะจ่ายไม่ได้ ซึ่งอาจจะสะท้อนได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจนั้น ส่งผลให้ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ อย่างเช่น การไม่มีเงินจากการไม่มีงาน

ด้วยเหตุผลเหล่านั้นทำให้ NPL เป็นตัวเลขที่ถูกนำมาใช้วัดแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้โดยรวม ซึ่งจะสามารถสะท้อนรายได้ของผู้บริโภคในประเทศโดยรวม และเป็นตัวเลขที่สถาบันการเงินใช้ประมาณการแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้

ใครได้รับผลกระทบจาก NPL สูง

เมื่อธนาคารกลัวการผิดนัดชำระหนี้จากการที่ตัวเลข NPL (Non-Performing Loan) อยู่ในระดับที่สูง ผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงคือผู้ที่ต้องการจะกู้เงิน เพราะจะกู้เงินได้ยากขึ้นในช่วงที่ตัวเลขหนี้ NPL อยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากผู้ปล่อยกู้ต้องการป้องกันการผิดนัดชำระหนี้

สิ่งที่สถาบันการเงินมักจะทำเมื่อหนี้ NPL สูง คือการปล่อยกู้ที่ยากขึ้นด้วยหลากหลายวิธีในการคัดกรอง ตัวอย่างเช่น

การปล่อยกู้มีขั้นตอนมากขึ้น และมีการตรวจสอบมากขึ้น เพราะธนาคารจำเป็นต้องคัดกรองลูกหนี้ให้ดี ไม่ได้ปล่อยกู้ง่ายเหมือนตอนช่วงอยากให้กู้ 

ลูกหนี้กลุ่มรายได้น้อยและกลุ่มรายได้ปานกลางกู้เงินยากขึ้น เหตุผลคือคนกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้เสียอยู่สูงเพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ไม่สูงนัก

ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อหากำไรเพิ่มและเพื่อการทดแทนในส่วนที่อาจจะกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งในช่วงนี้สถาบันการเงินมักจะมีการออก Promotion เงินกู้น้อยลง

NPL กับ NPA

NPL (Non Performing Loan) กับ NPA (Non Performing Asset) เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากทั้ง NPL และ NPA เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกัน

เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ หนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวจะกลายเป็นหนี้เสียที่เรียกว่า NPL (Non Performing Loan) ซึ่งจะทำให้หลักทรัพย์ค้ำประกันของลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน หรือรถยนต์ ถูกยึดกลายเป็นสินทรัพย์รอการขาย ซึ่งเรียกว่า NPA (Non Performing Asset)

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด