GreedisGoods » Economics » NPL คืออะไร? ตัวเลขหนี้เสีย Non Performing Loan บอกอะไร

NPL คืออะไร? ตัวเลขหนี้เสีย Non Performing Loan บอกอะไร

by Kris Piroj
NPL คือ หนี้เสีย ตัวเลข Non Performing Loan คือ หนี้ Non Profit Loan

NPL คืออะไร?

NPL คือ สินเชื่อด้อยคุณภาพหรือสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non Performing Loan) เป็นสินเชื่อที่นอกจากจะไม่ทำให้เกิดกำไรกับผู้ปล่อยกู้แล้วยังทำให้ผู้ปล่อยกู้สูญเงินต้นที่ปล่อยกู้ไปด้วย ซึ่งเป็นผลจากการค้างชำระหนี้หรือผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้

Non Performing Loan หรือ NPL ตามความหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อธิบายไว้ว่า NPL คือสินเชื่อที่ค้างชำระมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน เรียกว่า อยู่ในช่วงของการผิดนัดชำระหนี้

อธิบายให้ง่ายกว่านั้น NPL (Non-Performing Loan) ก็คือหนี้เสียที่ลูกหนี้ไม่จ่ายเมื่อครบกำหนดเวลาชำระหนี้มากกว่า 3 เดือนนั่นเอง

ตัวเลข NPL ในระบบเศรษฐกิจคือตัวเลขที่รวบรวมมากจากหนี้ที่ค้างชำระและผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นตัวเลข Non Performing Loan หรือ NPL จึงเป็นตัวเลขที่จะบอกความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในภาพรวม

ในประเทศไทยผู้ที่รวบรวมข้อมูล NPL คือธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรวบรวมตัวเลข NPL หรือหนี้เสียเหล่านี้มาจากธนาคารพานิชย์และสถาบันการเงินอื่น ๆ ภายใต้การกำกับดูแล แล้วนำตัวเลข NPL (Non Performing Loan) ที่ได้มารวมกันเป็นมูลค่าทั้งระบบ

ตัวเลข NPL บอกอะไร

Non-Performing Loan หรือ NPL คือ ตัวเลขที่ใช้เป็นดัชนีแสดงถึงการผิดนัดชำระหนี้ เพราะตัวเลข Non Performing Loan เกิดจากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

ดังนั้น การที่ตัวเลข NPL เพิ่มสูงขึ้น หมายถึง การที่ลูกหนี้จำนวนมากผิดนัดชำระหนี้ ณ ขณะนั้น และแนวโน้มของการที่ลูกหนี้มีโอกาสจะไม่จ่ายหนี้สูงในช่วงเวลาดังกล่าว ในทางกลับกันถ้าหากตัวเลข NPL อยู่ในระดับที่ต่ำ หมายถึง มีการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ

ในส่วนนี้ทำให้ผู้ปล่อยเงินกู้อย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่น ๆ จะรู้สึกไม่อยากปล่อยกู้ในช่วงที่ตัวเลข NPL สูง เพราะกลัวเงินกู้ดังกล่าวจะกลายเป็นหนี้เสีย เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริงธนาคารและสถาบันการเงินเหล่านี้ก็จะเข้มงวดกับการปล่อยกู้มากขึ้นตามตัวเลข NPL ที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ตัวเลข NPL ที่สูงขึ้นดังกล่าวก็อาจส่งสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ถดถอยได้ด้วย เพราะตามปกติลูกหนี้จะพยายามหาเงินมาจ่ายหนี้อยู่แล้วเพื่อป้องกันการถูกยึดทรัพย์สิน

การที่ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าลูกหนี้ไม่อยากจ่าย แต่อาจเป็นเพราจ่ายไม่ได้ ซึ่งอาจจะสะท้อนได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ส่งผลให้ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ อย่างเช่น การไม่มีเงินจากการไม่มีงาน

ทำให้ NPL เป็นตัวเลขที่ถูกนำมาใช้วัดแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้โดยรวม ซึ่งจะสามารถสะท้อนรายได้ของผู้บริโภคในประเทศโดยรวม และเป็นตัวเลขที่สถาบันการเงินใช้ประมาณการแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้

ใครได้รับผลกระทบจาก NPL สูง

เมื่อธนาคารกลัวการผิดนัดชำระหนี้จากการที่ตัวเลข NPL (Non-Performing Loan) อยู่ในระดับที่สูง ผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงคือผู้ที่ต้องการจะกู้เงิน เพราะจะกู้เงินได้ยากขึ้นในช่วงที่ตัวเลขหนี้ NPL อยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากผู้ปล่อยกู้ต้องการป้องกันการผิดนัดชำระหนี้

สิ่งที่สถาบันการเงินมักจะทำเมื่อหนี้ NPL สูง คือการปล่อยกู้ที่ยากขึ้นด้วยหลากหลายวิธีในการคัดกรอง ตัวอย่างเช่น:

การปล่อยกู้มีขั้นตอนมากขึ้น ตรวจสอบมากขึ้น เพราะธนาคารจำเป็นต้องคัดกรองลูกหนี้ให้ดี ไม่ได้ปล่อยกู้ง่ายเหมือนตอนช่วงอยากให้กู้ 

ลูกหนี้กลุ่มรายได้น้อยและกลุ่มรายได้ปานกลางกู้เงินยากขึ้น เหตุผลคือคนกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้เสียอยู่สูงเพราะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ไม่สูงนัก

ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อหากำไรเพิ่มและเพื่อการทดแทนในส่วนที่อาจจะกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งในช่วงนี้สถาบันการเงินมักจะมีการออก Promotion เงินกู้น้อยลง

สามารถติดตามมูลค่า NPL ในประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ซึ่งจะประกาศมูลค่าหนี้เสีย NPL ของไทยได้ทุกเดือน

บทความที่เกี่ยวข้อง