ราคาพาร์ คืออะไร?
ราคาพาร์ คือ ราคาของหุ้น 1 หุ้นที่ถูกกำหนดเมื่อตอนที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เรียกว่ามูลค่าที่ตราไว้ โดยบริษัทสามารถกำหนดราคาพาร์ของหุ้นได้ตามที่บริษัทต้องการ ซึ่งอาจเป็น 0.01 หรือ 10 บาทต่อหุ้นก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่ราคาพาร์ (Par Value) ของหุ้นบริษัทจดทะเบียนมักจะกำหนดมูลค่าที่ตราไว้ที่ 1 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาพาร์ (Par Value) เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับราคาหุ้นในตลาดหุ้นโดยตรง เพราะราคาพาร์ (Par Value) เป็นเพียงราคา ณ ตอนจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทที่ต้องมีการแบ่งหุ้นให้แต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่ากัน
ในขณะที่ราคาของหุ้นในตลาดหุ้นเป็นราคาที่เปลี่ยนไปตามกลไกความต้องการของนักลงทุนในการเป็นเจ้าของหุ้นนั้น ๆ ยิ่งเป็นหุ้นที่เป็นที่ต้องการสูงราคายิ่งสูงตาม และในทางกลับกันยิ่งเป็นหุ้นที่ไม่เป็นที่ต้องการของนักลงทุนราคาของหุ้นก็จะยิ่งลดลง
โดยวิธีคำนวณราคาพาร์สามารถทำได้ง่าย ๆ เมื่อรู้มูลค่าของทุนจดทะเบียนและจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยจะคำนวณได้จาก: ราคาพาร์ = ทุนจดทะเบียน ÷ จำนวนหุ้น
ตัวอย่าง การคำนวณราคา Par
สมมติว่า บริษัท Greed is Goods ต้องการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านลาท และต้องการแบ่งหุ้นของบริษัทออกเป็น 1 ล้านหุ้น ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
จากตัวอย่างเมื่อแทนค่าทุนจดทะเบียนและจำนวนหุ้นลงไปในสมการจะได้ ราคาพาร์ = 10,000,000 ÷ 1,000,000
ดังนั้น ราคาพาร์หุ้นของบริษัท Greed is Goods มีมูลค่าของหุ้นที่ตราไว้ ณ วันจดทะเบียนบริษัทคือ หุ้นละ 10 บาท
ราคาพาร์กับ IPO
ราคาพาร์ (Par Value) กับราคา IPO (Initial Public Offering) เป็นสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนเข้าใจผิด ด้วยการเข้าใจผิดไปว่า ราคาพาร์ คือ สิ่งเดียวกับราคา IPO ที่เป็นราคาตอนที่บริษัทเข้าตลาดหุ้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ไม่ใช่”
เพราะอย่างที่บอกว่า ราคาพาร์ เป็นราคาตอนที่ตั้งบริษัท ที่บริษัทอาจจะจะตั้งไว้ว่า 1 บาทต่อหุ้น
แต่ราคา IPO จะเป็นราคาตอนที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือตลาดหุ้น ซึ่งธุรกิจอาจจะดำเนินงานไปแล้ว 10 ปีก่อนจะเข้าตลาดหุ้นก็ได้ และตอนที่เข้าตลาดหุ้นก็อาจจะเสนอขาย IPO 10 บาทต่อหุ้นก็ได้ (ทั้งที่ราคาพาร์ 1 บาท)
ราคาพาร์ หรือ Par Value มีผลอะไร?
ราคาพาร์ (Par Value) ของหุ้นจากการคำนวณด้านบน ถ้ามองแบบคณิตศาสตร์จะเห็นว่าจริง ๆ ราคาพาร์ ก็คือตัวหารที่จะทำให้มีจำนวนหุ้นมากน้อยแค่ไหน จากตัวอย่างเดิมถ้าราคาพาร์คือ 1 บาทต่อหุ้น บริษัทจะมีหุ้นถึง 10 ล้านหุ้น
แต่ถ้าหากถามว่าจำนวนหุ้นมากหรือน้อย และราคาพาร์ถูกหรือแพงบอกอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือไม่
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “แตกพาร์ (Split Par)” ซึ่งเป็นการลดราคาพาร์ของหุ้นลง (ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ด้วยการทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง โดยกรณีนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นกรณีที่พอจะมีผลบ้างแต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบที่ชัดเจนอยู่ดี