Passive Income คืออะไร?
Passive Income คือ รายได้ที่เกิดขึ้นจากความพยายามเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องใช้ความพยายามเลยเพื่อรักษารายได้เหล่านั้น ในขณะที่การลงทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอโดยที่ผู้ลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรมากในระยะยาว
กล่าวคือ รายได้จากการสร้าง Passive Income เป็นสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าขณะนั้นคุณไม่ได้ลงทุนลงแรง ทำงานเพื่อก่อให้เกิดรายได้นั้นมา ตรงข้ามกับ Active Income ที่เป็นรายได้จากการทำงานเพื่อแลกค่าจ้างวันต่อวันเพื่อให้ได้รายได้มา
โดยผลตอบแทนในรูปแบบ Passive Income คือผลตอบแทนที่มักเกิดขึ้นจากการลงทุนด้วยเงินทุน แล้วรอรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในลักษณะของดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนในรูปแบบที่ใกล้เคียง อย่างเช่น เงินปันผล และค่าเช่า
ตัวอย่างเช่น Passive Income จากการลงทุนหุ้นปันผล ก็จะเป็น Passive Income จากการที่นักลงทุนคัดเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ (ในกรณีนี้สมมติว่าคุณหามันได้จริง) แล้วใช้เงินทุนซื้อหุ้นดังกล่าวเพื่อรอหุ้นเหล่านั้นจ่ายเงินปันผล (Dividend) ในระยะยาว
หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายกว่านั้น การสร้าง Passive Income จะคล้ายกับการปลูกต้นไม้ที่อาจจะต้องลงทุนลงแรงในช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไปในระยะหนึ่งในระดับที่ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่ต้นไม้มากเหมือนตอนเริ่มต้น คุณก็จะแทบไม่ต้องทำอะไรแต่คุณก็จะได้ผลตอบแทนเป็นร่มเงาและผลไม้ไปอีกหลายปี
Passive Income มีอะไรบ้าง
เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขของ Passive Income ที่เป็นรายได้ที่ได้มาแบบไม่ต้องพยายามรักษารายได้เหล่านั้น ดังนั้น Passive Income มากกว่า 90% จึงเป็นการใช้เงินลงทุนในอะไรบางอย่างที่ให้ผลตอบแทนได้ในระยะยาว ได้แก่:
- การลงทุนในหุ้นปันผล (เงินปันผล): ทั้งการลงทุนในหุ้นสามัญ (Common Stock) และหุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock)
- การลงทุนในตราสารหนี้ (ดอกเบี้ย): พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้, T-Bill, และพันธบัตรรัฐบาลประเภทอื่น ๆ
- การลงทุนในกองทุน: ในกองทุนรูปแบบใดก็ตาม อย่างเช่น Mutual Fund, Hedge Fund, และ Private Fund ทั้งที่จ่ายเงินปันผลหรือไม่จ่ายเงินปันผลก็ตาม
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วยการปล่อยเช่า (ค่าเช่า): ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดิน คอนโด หรือบ้านก็ตาม (และอาจรวมถึงการให้เช่าอะไรก็ตามนอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์ด้วย)
- การฝากเงิน (ดอกเบี้ย): เป็นวิธีสร้างผลตอบแทนแบบ Passive Income ที่ง่ายที่สุดและความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น แลกกับการให้ผลตอบแทนที่ต่ำ ทำให้ต้องใช้เงินต้นมหาศาลในการสร้างผลตอบแทน
- การปล่อยกู้แบบ Peer-to-Peer (ดอกเบี้ย): การกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลทั่วไปผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งเงินในรูปแบบปกติและ Cryptocurrency
ทั้งนี้จะเห็นว่าในการลงทุนที่เรายกมามีหลายการลงทุนที่สามารถทำกำไรจากการเก็งกำไรได้ แต่อย่างที่บอกว่าเงื่อนไขของ Passive Income คือ การลงทุนที่ทำให้เกิดรายได้ที่ได้มาแบบไม่ต้องพยายามรักษารายได้เหล่านั้นหรือพยายามในการทำให้เกิดรายได้เหล่านั้นขึ้นมา การเก็งกำไรเหล่านั้นจึงไม่จัดอยู่ใน Passive Income
นอกจากนี้ ในการลงทุนแต่ละประเภทแม้ว่าจะดูง่ายเพื่อมีผลตอบแทนในลักษณะ Passive Income แต่การลงทุนเหล่านี้มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันมาก และมีโอกาสที่จะทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินต้นทั้งหมดจากการลงทุนได้ นักลงทุนที่จะสร้าง Passive Income จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ดีก่อนการลงทุน
เรื่องควรระวังเกี่ยวกับ Passive Income
Passive Income เป็นสิ่งที่บ่อยครั้งถูกนำมาใช้โฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงผู้คนเข้าไปลงทุนในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเกินจริงโดยเบื้องหลังคือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณีที่พบได้บ่อย:
ในกรณีแรกคือธุรกิจเครือข่ายที่มีเบื้องหลังเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ผู้ที่ถูกชักชวนไปลงทุนไม่ได้เข้าใกล้คำว่า Passive Income แม้แต่น้อยเนื่องจากไม่ได้เป็นแค่การลงทุนเพื่อรอผลตอบแทน เพราะแทบจะต้องดิ้นรนตลอดเวลาในการพยายามขายสินค้าสุดแพงที่ดูยังไงก็คือเซลล์หรือแชร์ลูกโซ่ที่ต้องชวนคนเข้ามาเป็นดาวน์ไลน์อย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผู้ที่อยู่ด้านบนของเครือข่ายเหล่านี้ที่เป็นจุดสูงสุดของพีระมิดอาจเรียกว่าเป็น Passive Income ได้เพราะทำเงินโดยที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรนอกจากการอวดตัวว่าเป็นงานที่มีรายได้สูงมากเพื่อชักจูงคนที่ไม่รู้เข้ามา
สำหรับอีกกรณีคือการใช้ Passive Income (ที่มหาศาล) ในการจูงใจโฆษณาเชิญชวนไปลงทุนในกองทุนปลอมหรือการลงทุนปลอมบางอย่าง ที่มีเบื้องหลังเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ โดยการเสนอผลตอบแทนเกินจริงในลักษณะที่ถ้าหากหยุดคิดดี ๆ แล้วอาจพบว่าผลตอบแทนทั้งเดือนอาจสูงกว่า 100% วิธีนี้มักลงเอยด้วยการเงียบหาย เลิกจ่ายผลตอบแทนมหาศาลให้คุณหรือแม้แต่ไม่จ่ายเลยก็ตาม
ทั้งหมดป้องกันได้ด้วยการเข้าใจพื้นฐานสิ่งที่ลงทุนอย่างละเอียด (และไม่ลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจ) ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงกระทำก่อนการลงทุนในอะไรก็ตาม เพราะถ้าหากเข้าใจก่อนลงทุนว่าสิ่งนั้นมีพื้นฐานอย่างไร ก็จะเห็นได้ทันว่าผลตอบแทนที่ว่าเกินจริงหรือไม่หรืองานนั้นให้ Passive Income จริงไหม