Put Option คือ Option หรือ ตราสารสิทธิ รูปแบบหนึ่ง โดย Put Option จะเป็น Options ที่ให้สิทธิในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต ด้วยราคาตามที่ตกลงไว้ในสัญญา Put Option ซึ่ง Put Option จะเป็นด้านตรงข้ามของ Call Option ที่เป็นสิทธิในการซื้อ
ตัวอย่างการทำงานของ Put Option สมมติว่า C ทำสัญญา Option ในการขาย เงินตราต่างประเทศ (Currency Call Options) โดยในสัญญาระบุว่า C จะสามารถขายเงินดอลลาร์สหรัฐได้ในราคา 33 บาท (THB) ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นจำนวน 1,000 ดอลลาร์ (แน่นอนว่าต้องมีค่าธรรมเนียมจำนวนหนึ่ง แต่เราจะไม่พูดถึงให้งง)
เมื่อครบระยะเวลา 3 เดือน C สามารถใช้สิทธิขายเงินดอลลาร์สหรัฐได้ตามสัญญา Options คือ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 33 บาท
ทำให้ C จะได้เงินทั้งหมด 33,000 บาท (ยังไม่หักค่าธรรมเนียมของ Option)
อย่างไรก็ตาม ถ้าในอีก 3 เดือน อัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์สหรัฐ ต่อ เงินบาทไทย เพิ่มขึ้นมากกว่า 33 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (สมมติว่า 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) C ก็สามารถเลือกที่จะไม่ใชิสิทธิของ Put Option ได้
และขายเงินดอลลาร์ในอัตราที่ดีกว่าแทน ซึ่งก็คืออัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน ที่ 36 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ทำให้ C จะได้เงิน 36,000 บาท (ยังไม่หักค่าธรรมเนียมของ Option)
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ C จะเสียค่าธรรมเนียม หรือ ค่า Premium ไปฟรีๆ เหมือนขับรถแล้วไม่ชน อดเคลมประกัน (แต่ก็คงไม่มีใครอยากขับชน)
แล้ว Option คืออะไร?
ทั้ง Call Option และ Put Option คือ ตราสารทางการเงินรูปแบบหนึ่ง ชื่อในภาษาไทยเรียกว่า ตราสารสิทธิ ซึ่งจะให้สิทธิในการซื้อหรือการขายสินค้าอ้างอิงในอนาคต (ตามชื่อ) ตามราคาที่ระบุไว้ในสัญญา Option (Option Contract) ซึ่งผู้ที่ถือสัญญาดังกล่าวก็จะสามารถเลือกว่าจะใช้สิทธิหรือไม่ใช้ก็ได้ตามต้องการ
โดย Option จะมีค่าใช้จ่ายที่ผู้ถือ Option ต้องจ่าย คือ ค่าธรรมเนียม (Premium) เป็นเงินจำนวนเล็กน้อย
สรุปแบบง่ายๆ Option จะเปรียบเสมือนการทำประกันรถยนต์ ที่ถ้าหากว่ารถชนขึ้นมาก็ได้เคลม แต่ถ้าไม่ชนก็ไม่ได้เคลม (เสียค่าธรรมเนียมฟรีๆ นิดหน่อย) ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากชน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Options แบบละเอียดได้ที่บทความ Options คืออะไร?