ในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาหลายคนได้รู้จักกับ QE ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Quantitative Tightening หรือ QT ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามของ QE ที่หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา
Key Points
- Quantitative Tightening คือ นโยบายทางการเงินแบบหดตัวที่ธนาคารกลางจะลดปริมาณสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ เพื่อทำให้ขนาดงบดุลกลับสู่ภาวะปกติ
- เป้าหมายของการใช้นโยบายการเงินแบบ Quantitative Tightening หรือ QT คือการทำให้เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกลับสู่ระดับที่เหมาสม
Quantitative Tightening คืออะไร?
Quantitative Tightening คือ นโยบายทางการเงินแบบหดตัวที่ธนาคารกลางใช้ลดปริมาณสภาพคล่องที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ เพื่อลดอุปสงค์ (ความต้องการซื้อ) สินค้าลงซึ่งจะส่งผลให้ระดับราคาสินค้าไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามความร้อนแรงของเศรษฐกิจที่อาจนำไปสู่เงินเฟ้อที่สูงเกินไป
QT หรือ Quantitative Tightening เป็นด้านตรงข้ามของ Quantitative Easing หรือ QE ที่เป็นนโยบายทางการเงินที่ธนาคารกลางจะขยายขนาดงบดุล (Balance Sheet) หรือเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เศรษฐกิจ
ในการใช้นโยบายทางการเงินในลักษณะของ Quantitative Tightening ธนาคารกลางจะลดขนาดงบดุล (Balance Sheet) ของธนาคารลงหลังจากที่ได้เพิ่มงบดุลอย่างมหาศาลจากการทำ QE ในช่วงที่ผ่านมา หรือพูดให้ง่ายกว่านั้นก็คือการทำให้งบดุลของธนาคารกลางกลับมาสู่ภาวะปกติอย่างที่ควรจะเป็น
การทำ QT (Quantitative Tightening) ของธนาคารโดยส่วนใหญ่จะเป็นการดึงเงินออกจากระบบด้วยวิธี Reverse Repo หรือการขายพันธบัตร (ที่เคยซื้อมาเมื่อตอนทำ QE) กลับสู่ตลาด ซึ่งจะทำให้เงินที่เคยอยู่ในระบบเศรษฐกิจกลับมาที่มือของธนาคารกลาง
ตัวอย่างเช่น ในปี 2018 Fed ได้ตัดสินใจไม่ Rollover พันธบัตรรัฐบาลบางส่วน ดังนั้นแทนที่ Fed จะขายให้กับตลาด Fed ตัดสินใจให้พันธบัตรดังกล่าวหมดอายุและไม่ออกพันธบัตรรุ่นใหม่มาแทนที่ (ไม่ Rollover) และในขณะเดียวกัน Fed ก็ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายกลับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึง 4 ครั้งในปี 2018 โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2018 ของสหรัฐฯ อยู่ที่กรอบ 2.25-2.5%

จากกราฟจะเห็นว่า Balance Sheet ของ Fed ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008 ที่ Fed เริ่มทำ QE ลดลงในช่วงปี 2018 ที่ Fed เริ่มพยายามทำ Quantitative Tightening ก่อนที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นเพราะ Unlimited QE ในช่วงโควิดในปี 2020
หรือเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ทำการ Reverse Repo โดยไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ขายพันธบัตรรัฐบาลออกไปถึง 4.9 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินที่มากกว่าวงเงิน QE ต่อเดือนที่อยู่ที่ระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กลายเป็นการ Reverse Repo ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ณ ขณะนั้น
เป้าหมายของ QT
เป้าหมายในการใช้นโยบายในลักษณะของ Quantitative Tightening คือใช้ในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อธนาคารกลางมองว่าเสถียรภาพของเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ (เศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัว) ซึ่งก็คือในช่วงที่ไม่จำเป็นต้องอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อช่วยเหลืออีกต่อไป
หรืออธิบายให้เป็นรูปธรรมก็คือ QT มีเป้าหมายในการกดราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (ที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) จากผลของการทำ QE อย่างหนักมาโดยตลอดกว่า 10 ปีให้ชะลอตัวลง
โดยมีเป้าหมาย 2 อย่าง คือ การลดปริมาณเงินในระบบจากการดูดซับสภาพคล่องออกไปจากระบบ และการทำให้ประชาชนและธุรกิจจะไม่อยากกู้เงินเพื่อลงทุนขยายธุรกิจเพิ่มและเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย (แทนที่จะนำมาเสี่ยง) ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะส่งผลให้ปริมาณสภาพคล่องในระบบลดลง
Source:
- What Is Quantitative Tightening? – Stlouisfed
- Assets: Total Assets: Total Assets – Stlouisfed
- Quantitative Easing หรือ QE คืออะไร? – GreedisGoods