GreedisGoods » Investment » Risk-Free Investment คืออะไร? ทำไมนักลงทุนสนใจ Risk-Free Return

Risk-Free Investment คืออะไร? ทำไมนักลงทุนสนใจ Risk-Free Return

by Kris Piroj
Risk Free Investment คือ การลงทุน ความเสี่ยงต่ำ พันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทน จากการลงทุน Risk Free Return คือ

Risk-Free Investment คืออะไร?

Risk-Free Investment คือ การลงทุนปราศจากความเสี่ยงใช้เรียกการลงทุนในกลุ่มที่ความเสี่ยงต่ำมากจนเปรียบเสมือนไม่มีความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นมาตรฐานในการพิจารณาความเสี่ยงของการลงทุนอื่นๆ

โดยทั่วไป Risk-Free Investment จะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1-4% ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์และสภาวะตลาดในขณะนั้น (รวมถึงประเทศที่ยกสินทรัพย์ประเภท Risk-Free Investment มาอ้างอิง) ซึ่งเราเรียกผลตอบแทนของ Risk-Free Investment นี้ว่า Risk-Free Return

นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนจาก Risk-Free Investment หรือ Risk-Free Return ในแต่ละประเทศอาจเป็นตัวเลขที่ต่างกันได้

กล่าวคือ การที่ Risk-Free Investment เป็นผลตอบแทนขั้นต่ำที่สุด ซึ่งเป็นกรณีที่แย่ที่สุดที่จะโยกเงินลงทุนที่มีไปลงทุนได้ ทำให้ Risk-Free Investment คือสิ่งที่นักลงทุนนำมาใช้เป็นทางเลือกที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนราคาเดินหนีของการเลือกลงทุน

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติไม่มีการลงทุนใดที่ไม่มีความเสี่ยง เพราะทุกการลงทุนมีโอกาสในการสูญเสียเงินต้นที่ลงทุนได้ทั้งสิ้น แม้ว่าจะเป็นพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำมากก็ตาม

Risk-Free Return คืออะไร?

Risk-Free Return คือ ผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวัง (Expected Return) จากการลงทุนแบบ Risk-Free Investment ที่ปราศจากความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนใช้ Risk-Free Return ในการเปรียบเทียบในการเลือกลงทุนเพื่อตัดสินใจว่าจะย้ายเงินลงทุนเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหรือไม่

โดยทั่วไป Risk-Free Return มักจะใช้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลมาในแต่ละประเทศมาใช้อ้างอิง อย่างเช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (10-Year Treasury Yield) และ T-Bill อายุ 3 เดือน (U.S. 3-Month T-Bill)

เนื่องจากมีโอกาสต่ำมากที่ประเทศจะผิดนัดชำระหนี้พันธบัตร เว้นแต่ประเทศจะล่มสลายจนไม่สามารถจ่ายหนี้ได้

ด้วยเหตุเดียวกันอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรระยะสั้นยิ่งมีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากในระยะเวาสั้น ๆ เป็นไปได้ยากมากที่ประเทศจะล่มสลายหรือมีเหตุให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้โดยที่ไม่มีสัญญาณอะไรแสดงให้นักลงทุนเห็นก่อน

ซึ่งการใช้ Risk-Free Return เปรียบเทียบเป็น Benchmark ในการเลือกลงทุน เมื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าแต่ได้ผลตอบแทนน้อยกว่าหรือเท่ากับ Risk-Free Return นักลงทุนก็จะเลือกลงทุนที่สินทรัพย์ที่เป็น Risk-Free Investment

ในทางกลับกันถ้าหากการที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้ผลตอบแทนสูงกว่า Risk-Free Investment นักลงทุนก็จะมีแนวโน้มที่จะย้ายเงินลงทุนออกจาก Risk-Free Assets ไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแทน

Risk-Free Investment มีอะไรบ้าง?

สำหรับการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น Risk-Free Investment ที่เหมือนเป็นการลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยงแบบดั้งเดิมคือ T-Bill หรือตั๋วเงินคลัง เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงใกล้เคียงสมมติฐานของคำว่า “Risk-Free” มากที่สุดตามที่ได้อธิบายในตอนต้น

แต่ในความหมายของบางคนอาจขยายขอบเขตของ Risk-Free Investment เอาไว้กว้างกว่านั้น โดยไม่ได้เลือกเพียงตัวเลือกที่ความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่รวมไปถึงการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำเนื่องจากยากที่จะผิดนัดชำระหนี้หรือจ่ายดอกเบี้ยในความเป็นจริง ซึ่งได้แก่ พันธบัตรเทศบาล (Municipal), บัตรเงินฝาก (Certificate of Depositing), การฝากเงินทั่วไป (Saving Account), พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว, และตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ถูกจัด Credit Rating ระดับ AAA

หากสังเกตจะพบว่าการลงทุนใน Risk Free Investment เป็นการลงทุนประเภทที่คล้ายกับการลงทุนประเภทที่สามารถ Passive Income ได้ ทำให้สับสนไปว่าคือสิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตามแม้ว่า Risk-Free Investment คือ Passive Income รูปแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ความหมายว่า Passive Income ทั้งหมดคือ Risk Free Investment

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด