ROA คืออะไร?
ROA คือ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่เปรียบเทียบระหว่างกำไรสุทธิกับสินทรัพย์รวมบริษัท เพื่อใช้ในการวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเมื่อเทียบกับจำนวนสินทรัพย์ที่มีอยู่ ซึ่งค่า ROA ของหุ้นจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้กี่เปอร์เซ็นต์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่
โดยค่าที่ได้จาก Return on Asset หรือ ROA เป็นตัวเลขที่บอกว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้กี่เปอร์เซ็นต์จากสินทรัพย์ที่บริษัทมีอยู่ หรือทุกสินทรัพย์ 100 บาทของบริษัท บริษัทสามารถเปลี่ยนเป็นกำไรให้บริษัทได้กี่บาท ตามชื่อ Return on Asset หรือผลตอบแทนจากสินทรัพย์
ในการวิเคราะห์งบการเงินด้วยค่า ROA หรือ Return on Asset จะนำค่าที่ได้ไปเปรียบเทียบกับค่า ROA ของบริษัทอื่นที่อยู่ในอัตสาหกรรมเดียวกัน, ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม, หรือค่า ROA ของบริษัทในอดีต เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการทำกำไรของบริษัทว่าอยู่ในระดับปกติ แย่กว่า หรือดีกว่า
แต่จะไม่ใช้ค่า ROA ที่ได้ไปเปรียบเทียบกับธุรกิจที่ต่างกัน เนื่องจากในแต่ละธุรกิจมีพฤติกรรมการใช้สินทรัพย์ที่ต่างกันไม่มากก็น้อย ในธุรกิจอย่างด้านเทคโนโลยีจะมีการใช้สินทรัพย์ที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งส่งผลให้ค่า ROA ในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสูงกว่า
วิธีหาค่า ROA
การคำนวณ ROA คือ การนำกำไรสุทธิ (Net Profit) หารด้วยสินทรัพย์รวม (Total Asset) และนำไปคูณ 100 เพื่อแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ (ถ้าหากไม่คูณ 100 จะมีหน่วยเป็นเท่า) ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัททำกำไรได้กี่เปอร์เซ็นต์จากสินทรัพย์ที่มี
Return on Asset หรือ ROA = (กำไรสุทธิ ÷ สินทรัพย์รวม) x 100%
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ หรือ Return on Asset (ROA) ที่คำนวณออกมาได้ควรมีค่าเป็นบวก และยิ่งเป็นค่ามากยิ่งดี ซึ่งเราจะนำค่า ROA ที่ได้ไปเปรียบเทียบกับค่า ROA ของบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมหรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
โดยในเบื้องต้น Return on Asset หรือ ROA ที่ได้สามารถแปลผลได้ดังนี้:
ROA สูง คือ การที่กิจการมีความสามารถในการทำกำไรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่สูง หรือก็คือกิจการสามารถเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีไปเป็นกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ข้อควรระวังของธุรกิจที่ ROA สูงมากคือการที่เป็นธุรกิจที่คู่แข่งหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่ายเนื่องจากเป็นที่ใช้การลงทุนเริ่มต้นในส่วนของสินทรัพย์ไม่มาก
ROA ต่ำ คือ การที่กิจการไม่สามารถใช้สินทรัพย์เพื่อสร้างกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือใช้ได้ไม่เต็มที่เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ROA ของหุ้นบริษัทจดทะเบียน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องคำนวณ ROA ของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เสมอไป เพราะสามารถดูค่า ROA หรือ Return on Asset ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สนใจได้จากเว็บไซต์ SET.or.th ในส่วนของข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์
แล้วเลือกไปที่ “งบการเงิน/ผลประกอบการ” โดยค่า ROA จะอยู่ในส่วนของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ (อยู่ด้านบนค่า ROE)

ตัวอย่าง ROA ของหุ้น
ตัวอย่างเช่น บริษัท A มีสินทรัพย์รวมทั้งหมด 1,000,000 บาท และบริษัทมีกำไรสุทธิในปีนี้ 4,000 บาท โดยอุตสาหกรรมที่บริษัท A ประกอบธุรกิจมี ค่าเฉลี่ย ROA คือ 16%
ค่า Return on Asset หรือ ROA = (4000 ÷ 1000000) x 100%
ดังนั้น ROA ของบริษัท A จะมีค่าเท่ากับ 0.4% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ หมายความว่าบริษัท A ไม่สามารถใช้สินทรัพย์ที่มีเปลี่ยนเป็นกำไรได้เกิดประโยชน์สูงสุด (หรือแย่กว่า) เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน
หรืออธิบายให้เห็นภาพกว่านั้น ROA 0.4% เหมือนกับลงทุนเปิดร้านไป 1 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะไม่ขาดทุน แต่ก็ทำกำไรได้แค่ 4,000 บาท
อย่างไรก็ตามค่า ROA หรือ Return on Asset อาจมีความคลาดเคลื่อนในบางธุรกิจ เพราะบางธุรกิจเป็นธุรกิจที่ใช้สินทรัพย์น้อย ทำให้เมื่อคำนวณออกแล้วได้ค่า ROA ออกมาสูงอยู่แล้ว ทำให้ตัวเลขออกมามากเกินจริง ตัวอย่างเช่น ธุรกิจบริการบางประเภท
ดังนั้น ในการดูอัตราส่วนทางการเงินทั้ง ROA หรืออัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนทางการเงินใดก็ตาม ก็ควรที่จะดูตัวเลขอื่นที่เกี่ยวข้องควบคู่กันไปด้วย