บทความนี้มาทำความเข้าใจกันว่าค่า ROI คือ อะไร? และค่า Return on Investment หรือ ROI ที่ได้จากสูตรคำนวณบอกอะไรบ้าง
ROI คือ Return on Investment หมายถึง อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน โดยค่า ROI จะเป็นการเปรียบเทียบเงินลงทุนกับผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน ซึ่งอัตราส่วน ROI จะแสดงให้เห็นว่าการลงทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนหรือกำไรจากการลงทุนกลับมากี่เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ของอัตราส่วน Return on Investment หรือ ROI คือ ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนเลือกลงทุน ซึ่งจะพิจารณาว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ ในทางกลับกัน ROI ก็สามารถการวัดผลจากการลงทุนที่ลงทุนไปแล้วว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่ได้เช่นกัน
อธิบายแบบง่ายๆ ROI คือ อัตราส่วนที่บอกว่าทุกเงินลงทุน 100 ที่ลงทุนไป (Investment) ธุรกิจจะได้ผลตอบแทน (Return) กลับมาเท่าไหร่ เพื่อพิจารณาทางเลือกการลงทุนว่าคุ้มหรือไม่นั่นเอง
โดยอัตราส่วน ROI หรือ Return on Investment จะใช้หาอัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนได้กับทุกการลงทุน ทั้งการลงทุนในหุ้น การลงทุนของบริษัท รวมถึงทางฝั่งนักการตลาดที่ใช้ ROI เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของแต่ละแคมเปญการตลาดว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่
สูตร ROI หรือ อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน
ROI คือ อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนที่มาจากการนำกำไรจากการลงทุน (กำไร = รายได้ – เงินลงทุน) หารด้วยเงินเงินลงทุน และคูณด้วย 100 เพื่อทำให้ค่า Return on Investment หรือ ROI ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือสามารถเขียนสูตร ROI เป็นสมการได้ดังนี้:
Return on Investment หรือ ROI = (กำไร ÷ เงินลงทุน) x 100
จากการคำนวณค่าที่ได้ของ Return on Investment หรือ ROI จะมีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าทุกเงินลงทุน 100 บาทจะได้ผลตอบแทนหรือกำไร (Profit) กลับมาเท่ากับค่า ROI โดยค่าที่ได้แต่ละแบบจะมีความหมายดังนี้
ROI มากกว่า 0 หรือ 100% คือ การลงทุนที่มีกำไร (กำไรมากกว่า 0 หรือกำไรเป็นบวก) ยิ่งค่า ROI สูงยิ่งดียิ่งหมายความว่าเป็นการลงทุนที่มีกำไรสูง
ROI น้อยกว่า 0 หรือ 100% คือ การลงทุนที่ขาดทุน (กำไรน้อยกว่า 0 หรือกำไรเป็นลบ) ยิ่งค่า ROI ต่ำยิ่งหมายความว่ายิ่งขาดทุนมาก
และในกรณีสุดท้ายคือกรณีที่ค่า Return on Investment หรือ ROI เท่ากับ 0 หรือ 100% หมายความว่าเป็นการลงทุนที่เท่าทุน (ไม่มีกำไร) เป็นการลงทุนที่ไม่ได้กำไรและไม่ขาดทุน
ตัวอย่าง ROI หรือ Return on Investment
ตัวอย่างที่ 1 บริษัท Roi Example ซื้อโฆษณาจากสื่อหนึ่งเป็นมูลค่า 1 ล้านบาทในระยะเวลา 1 เดือน และการลงโฆษณาดังกล่าวทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ในเดือนดังกล่าวซึ่งคิดเป็นมูลกำไรได้ 1,600,000 บาท จะสามารถคำนวณอัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนหรือ ROI ได้ดังนี้
จากตัวอย่าง Return on Investment หรือ ROI = (1,600,000 ÷ 1,000,000) x 100 = 160%
สรุปจากตัวอย่าง ROI คือ 160% หมายความว่าบริษัท Roi Example จะสามารถทำกำไรได้จากการลงโฆษณาดังกล่าว 160% หรือทุกการลงทุน 100 บาทในการซื้อโฆษณาจะทำให้ได้กำไรเพิ่มกลับมา 160 บาท (ในกรณีนี้ยังไม่รวมความเป็นไปได้ที่ลูกค้าที่ได้มาใหม่จะกลับมาซื้อซ้ำ)
ตัวอย่างที่ 2 บริษัท Returns More ลงทุน 200,000 บาทในการจ้างพนักงานขายชั่วคราว 1 เดือน โดยรายได้ที่เกิดจากพนักงานขายเหล่านั้นคือ 1,000,000 บาท จะสามารถคำนวณหาค่า Return on Investment หรือค่า ROI ได้ดังนี้
ค่า ROI ของการลงทุนของบริษัท Returns More = ((1,000,000 – 200,000) ÷ 200,000) x 100 = 400%
จากตัวอย่างที่ 2 บริษัท Returns More มีค่า ROI หรือ Return on Investment คือ 400% แปลว่าบริษัท Returns More ทำกำไรได้จากการลงทุนจ้างพนักงานชั่วคราวเพื่อขายสินค้าถึง 400% หรือ 4 เท่าของค่าจ้าง