GreedisGoods » Investment » หุ้นติด Cash Balance คืออะไร? ทำไมหุ้นขึ้น T1 T2 T3

หุ้นติด Cash Balance คืออะไร? ทำไมหุ้นขึ้น T1 T2 T3

by Kris Piroj

หุ้นติด Cash Balance คืออะไร?

หุ้นติด Cash Balance คือ หุ้นที่อยู่ภายใต้มาตรการการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จากสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหุ้นติด Cash Balance เหล่านี้จะมีเครื่องหมาย T1 T2 หรือ T3 อยู่ท้ายชื่อหุ้นตามระดับ

โดยเครื่องหมาย Trading Alert หรือ T1 T2 หรือ T3 จะขึ้นเอาไว้เพื่อเตือนให้นักลงทุนทราบว่าหุ้นเหล่านั้นมีการซื้อขายที่ผิดปกติ เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับนักลงทุนและระบบโดยรวม โดยเครื่องหมาย Trading Alert จะทำให้การซื้อขายหุ้นติด Cash Balance ภายใต้มาตรการกำกับการซื้อขายมีเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมา ดังนี้

T1 (Trading Alert Level 1) คือ หุ้นติดแคชบาลานซ์ระดับ 1 นักลงทุนจะต้องใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance ซื้อขายหุ้นเท่านั้น และห้ามใช้หุ้นนี้ในการเป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี

T2 (Trading Alert Level 2) คือ หุ้นติดแคชบาลานซ์ระดับ 2 มีเงื่อนไขเหมือนกับ T1 แต่จะเพิ่มเงื่อนไขการห้าม Net Settlement คือ การห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ทำให้การซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกันจะไม่ได้รับวงเงินคืนมาทันที แต่ค่าขายคืนจะได้คืนมาเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป (เพื่อป้องกันนักเก็งกำไรเข้าไปทำราคาให้ผันผวนไปมากกว่านั้น)

T3 (Trading Alert Level 3) คือ หุ้นติดแคชบาลานซ์ระดับ 3 มีเงื่อนไขเหมือนกับ T2 ห้ามซื้อขาย 1 วันทำการแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย T3

จะเห็นว่าสาเหตุที่หุ้นเหล่านี้ถูกเรียกว่า หุ้นติด Cash Balance มาจากการที่การติดเงื่อนไข Cash Balance (ใช้บัญชีแบบเติมเงินซื้อหุ้นเหล่านี้ได้เท่านั้น) เป็นเงื่อนไขขั้นต่ำที่สุดของหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย T หรือ Trading Alert ในทุกระดับของมาตรการการกำกับการซื้อขาย ที่จะมีมาตรการอื่น ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ

หุ้นขึ้น T1 T2 T3 คือ หุ้นติด Cash Balance
ตัวอย่าง หุ้นขึ้นเครื่องหมาย T1 และ T2

เงื่อนไข Cash Balance

เหตุผลที่จะทำให้หุ้นติด Cash Balance โดยพื้นฐาน คือ ประเด็นเกี่ยวกับการซื้อขายที่ผิดปกติของหุ้นเหล่านั้นโดยที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเหล่านั้นตามเงื่อนไขการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการกำหนดเงื่อนไขในการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการติด Cash Balance เอาไว้ ดังนี้

เมื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่งผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้ง 2 อย่าง ดังต่อไปนี้:

  1. มีการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือปริมาณการซื้อขายในหลักทรัพย์นั้นอย่างมาก หรือมีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์นั้นเป็นจำนวนมาก จนมีแนวโน้มที่อาจส่งผลกระทบเสียหายต่อสภาพการซื้อขาย และมีลักษณะตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด
  2. มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูงจนอาจส่งผลกระทบเสียหายต่อสภาพการซื้อขาย และมีลักษณะตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด

โดยมีปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา เช่น อัตราหมุนเวียนการซื้อขาย (Turnover Ratio) มูลค่าการซื้อขาย และราคาซื้อขายที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน อย่างเช่น P/E Ratio เป็นต้น

ทั้งนี้ (1) เมื่อหุ้นสามัญใดเข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย หลักทรัพย์อื่นของบริษัทจดทะเบียนและหลักทรัพย์ที่มีการอ้างอิงหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนจะเข้ามาตรการกำกับการซื้อขายด้วย ยกเว้น DW

(2) ไม่พิจารณาหลักทรัพย์เข้าใหม่สำหรับการซื้อขายในช่วง 5 วันทำการแรก (นับวันซื้อขายวันแรกเป็นวันที่ 1)

ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหุ้นติด Cash Balance ออกมาหลังปิดการซื้อขาย (T) บนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหัวข้อข่าว Trading Alert List และหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ซึ่งมาตรการกำกับการซื้อขายในแต่ละระดับจะมีระยะเวลาเริ่มต้นจนถึงวันสิ้นสุดครั้งละ 3 สัปดาห์ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถพิจารณาขยายหรือยกระดับมาตรการได้เมื่อพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ยังคงผิดปกติอยู่

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการกำกับการซื้อขายรายสัปดาห์ (Turnover List) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคำนวณโดยเริ่มจากวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนหน้าจนถึงวันรองทำการสุดท้ายของสัปดาห์ที่คำนวณ

หุ้นขึ้น T1

หุ้นขึ้น T1 คือ Trading Alert Level 1 เป็นเครื่องหมายหุ้นที่ใช้บ่งบอกถึงหุ้นที่อยู่ภายใต้มาตรการการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือติด Cash Balance ในระดับ 1

โดยการซื้อขายหุ้นที่มีเครื่องหมาย T1 จะมีเงื่อนไข ดังนี้

  • นักลงทุนจะต้องซื้อขายหุ้นโดยใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance (บัญชีหุ้นแบบเติมเงิน) ที่นักลงทุนต้องวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์
  • ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย คือ ห้ามใช้หุ้นนี้ในการเป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี

ในส่วนของการห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย สำหรับบัญชีเงินสด (Cash account) จะเป็นการไม่นำหลักทรัพย์ดังกล่าวมาใช้คำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย (หลักทรัพย์ดังกล่าวมีมูลค่าในการใช้เป็นหลักประกันเพื่อคำนวณวงเงินเท่ากับ 0) ส่วนบัญชีมาร์จิ้น (Credit balance) จะยอมให้คำนวณหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นหลักประกัน Maintenance Margin (MM) ได้ แต่ไม่ให้คำนวณเป็นอำนาจซื้อ Excess Equity (EE)

หุ้นขึ้น T2

หุ้นขึ้น T2 คือ Trading Alert Level 2 เป็นเครื่องหมายหุ้นที่ใช้บ่งบอกถึงหุ้นที่อยู่ภายใต้มาตรการการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือติด Cash Balance ในระดับ 2 เกิดขึ้นเมื่อหุ้นดังกล่าวเข้าเงื่อนไข Trading Alert หรือมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นครั้งที่ 2

โดยการซื้อขายหุ้นที่มีเครื่องหมาย T2 จะมีเงื่อนไข ดังนี้

  • นักลงทุนจะต้องซื้อขายหุ้นโดยใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance (บัญชีหุ้นแบบเติมเงิน) ที่นักลงทุนต้องวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์
  • ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย คือ ห้ามใช้หุ้นนี้ในการเป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี
  • ห้าม Net settlement คือ การห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ทำให้การซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกันจะไม่ได้รับวงเงินคืนมาทันที แต่ค่าขายคืนจะได้คืนมาเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป เพื่อป้องกันนักเก็งกำไรเข้าไปทำราคาให้ผันผวนไปมากกว่านั้นด้วยการซื้อขายหุ้นเดิมซ้ำ ๆ

กล่าวคือ หุ้นขึ้น T2 คือหุ้นที่กลับมาติดเงื่อนไข Trading Alert เป็นครั้งที่ 2 ทำให้มีการเพิ่มการห้าม Net Settlement ขึ้นมาจากเงื่อนไข T1

หุ้นขึ้น T3

หุ้นขึ้น T3 คือ Trading Alert Level 3 เป็นเครื่องหมายหุ้นที่ใช้บ่งบอกถึงหุ้นที่อยู่ภายใต้มาตรการการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือติด Cash Balance ในระดับ 3 ซึ่งการที่หุ้นดังกล่าวเข้าเงื่อนไข Trading Alert หรือมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นครั้งที่ 3

โดยการซื้อขายหุ้นที่มีเครื่องหมาย T3 จะมีเงื่อนไข ดังนี้

  • นักลงทุนจะต้องซื้อขายหุ้นโดยใช้บัญชีหุ้นแบบ Cash Balance (บัญชีหุ้นแบบเติมเงิน) ที่นักลงทุนต้องวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์
  • ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย คือ ห้ามใช้หุ้นนี้ในการเป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ในทุกประเภทบัญชี
  • ห้าม Net settlement คือ การห้ามโบรกเกอร์หักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน ทำให้การซื้อและขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกันจะไม่ได้รับวงเงินคืนมาทันที แต่ค่าขายคืนจะได้คืนมาเป็นวงเงินในวันทำการถัดไป เพื่อป้องกันนักเก็งกำไรเข้าไปทำราคาให้ผันผวนไปมากกว่านั้นด้วยการซื้อขายหุ้นเดิมซ้ำ ๆ
  • ในวันทำการแรกที่หุ้นขึ้น T3 จะไม่สามารถซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ 1 วัน

กล่าวคือ เงื่อนไขการซื้อขายหุ้นขึ้น T3 จะเหมือนกับเงื่อนไขของหุ้นขึ้น T2 ทุกประการ เพียงแต่ในวันทำการแรกที่หุ้นขึ้น T3 จะไม่สามารถซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้ 1 วัน


จะเห็นว่าเป้าหมายหลักของมาตรการกำกับการซื้อขายออกแบบมาเพื่อการจำกัดการเก็งกำไรที่ทำให้ราคาหุ้นผันผวนเกินพื้นฐานความเป็นจริง ทำให้มาตรการกำกับการซื้อขายในแต่ละระดับมุ่งเน้นไปที่การทำให้นักเก็งกำไรสามารถเข้ามาทำให้ราคาหุ้นเหล่านี้ผันผวนได้มากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นแล้ว คำถามที่ว่าหุ้นติด Cash Balance T1 T2 หรือ T3 ควรซื้อดีไหม? ก็เป็นหน้าที่ของนักลงทุนในการพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อตัดสินใจว่าจะออกห่างจากหุ้นติด Cash Balance เหล่านั้นหรือไม่

อ้างอิงจากเงื่อนไขและรายละเอียดของมาตรการกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด