Zero Sum Game คืออะไร?
Zero Sum Game คือ เกมผลรวมศูนย์ เป็นรูปแบบหนึ่งของเกมหรือการเจรจาต่อรองที่มีผลลัพธ์ที่เมื่อฝ่ายหนึ่งได้ผลประโยชน์จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ในจำนวนเท่ากัน ซึ่งถ้านำผลประโยชน์หรือประโยชน์ที่แต่ละฝ่ายได้รับจาก Zero Sum Game มารวมกันจะได้เท่ากับ 0 พอดีเสมอ
ตัวอย่างเช่น A และ B แข่งขันกันหยิบลูกบอลให้ได้มากที่สุดจากลูกบอลทั้งหมด 7 ลูก โดยมีเงื่อนไขคือใครเร็วใครได้ ผลการแข่งขันพบว่า A หยิบได้ 2 ลูก ในขณะที่ B หยิบได้ 5 ลูก จากตัวอย่างผู้ชนะ (B) ได้ผลตอบแทนที่ 5 ลูก และผู้แพ้ (A) ได้ผลตอบแทนเพียง 2 ลูก
จะเห็นว่าจากตัวอย่างไม่ต่างจากการแบ่งเค้กหรือการแบ่งพิซซ่า การที่ A หยิบลูกบอล 1 ลูกจะทำให้จำนวนลูกบอล (ประโยชน์) โดยรวมที่ B จะสามารถหยิบได้ลดลง และจากผลการแข่งขันดังกล่าวจะเห็นว่าการที่ B หยิบลูกบอลได้ 5 ลูกหมายความว่า A ได้เสียลูกบอลไป 5 ลูก
นอกจากนี้ ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดของ Zero Sum Game คือเกมที่มีฝ่ายหนึ่งชนะในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งแพ้อย่างหมากรุก ที่ในท้ายที่สุดจะมีฝ่ายหนึ่งชนะในขณะที่อีกฝ่ายแพ้
กล่าวคือ ใน Zero Sum Game ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผู้เข้าร่วมเกมคนหนึ่งจะมาจากความสูญเสียที่ผู้เล่นอีกคนหนึ่งได้รับเสมอ ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อคือ Win-Lose ที่ฝ่ายหนึ่งได้ผลประโยชน์มากกว่าอีกฝ่าย
จะเห็นว่าลักษณะสำคัญของ Zero Sum Game คือการที่ฝ่ายหนึ่งจะได้รับผลประโยชน์เท่ากับความเสียประโยชน์ (ความเสียหาย) ของอีกฝ่ายเสมอ ซึ่งจะพบว่าสิ่งที่นับว่าเป็น Zero Sum Game ได้แก่:
- การเจรจาต่อรองแบบแบ่งสันปันส่วน
- การใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Future) ในการเก็งกำไร
- การใช้ตราสารสิทธิ (Options) ในการเก็งกำไร
- การเป่ายิงฉุบ
- หมากรุก
- การเดิมพันทั่วไป (โดยส่วนใหญ่)
- การดวลปืนของคาวบอย
โดย Zero Sum Game เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของเกมหรือการเจรจาต่อรองจากทฤษฎีเกม (Game Theory) ซึ่งเป็นโมเดลทางคณิตศาสตร์ที่ใช้อธิบายถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในสถานการณ์ที่ 2 ฝ่ายขึ้นไปมีความสนใจที่ขัดแย้งกัน โดยพัฒนาขึ้นโดยการมีส่วนร่วมระหว่าง John von Neumann, Oskar Morgenstern, และ John Nash
เป้าหมายของ Zero Sum Game
เป้าหมายของ Zero Sum Game คือการเป็นฝ่ายที่ได้ผลประโยชน์สูงที่สุดหรือเป็นผู้ชนะ (ตักตวงผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด) ถ้าเทียบเป็นพิซซ่า 1 ถาด ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของ Zero Sum Game คือการได้พิซซ่าจำนวนชิ้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่การได้ทุกชิ้นคือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จากเป้าหมายดังกล่าวทำให้ Zero Sum Game เหมาะกับผลประโยชน์จากการเจรจาต่อรองหรือเกมที่ไม่จำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น การเจรจาธุรกิจเพียงครั้งเดียวในรูปแบบของการเจรจาแบบแบ่งสันปันส่วน (Distributive Negotiation) และการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างคู่แข่งที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เพราะในการแบ่งผลประโยชน์นี้จะสามารถใช้กลยุทธ์ได้ทุกรูปแบบเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์สูงสุด และไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจฝ่ายที่เป็นผู้แพ้หรือผู้ที่ได้ผลประโยชน์น้อยกว่ามากนัก
ทางเลือกที่ดีที่สุดของ Zero Sum Game?
เนื่องจาก เป้าหมายของ Zero Sum Game คือการได้ผลประโยชน์สูงสุด เพราะการได้ประโยชน์ทำให้อีกฝ่ายเสียประโยชน์ (และการที่ไม่ต้องเสียประโยชน์) ทางเลือกที่ดีที่สุดของกลยุทธ์ในการเอาชนะเกมในลักษณะของ Zero Sum Game หรือเกมผลรวมศูนย์จึงมีอยู่ 2 ทางเลือก ได้แก่
- การเลือกทางเลือกที่เราจะได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุด
- การเลือกทางเลือกที่อีกฝ่ายได้ผลประโยชน์น้อยที่สุด (หรือไม่ได้เลย) เพื่อทำให้ในตอนท้ายเราเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์สูงสุด
แม้ว่า Zero Sum Game ที่แต่ละฝ่ายจะได้ผลประโยชน์ที่ไม่เท่ากัน แต่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจมีฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้อะไรเลยจากการแข่งขันในเกมดังกล่าวเลยก็ได้เช่นกัน