ธุรกิจและการเงินเต็มไปด้วยความเสี่ยงและโอกาส สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยง และคว้าโอกาสในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร และอะไรคือความเสี่ยงที่คุณอาจจะต้องระวัง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือ สัญญาที่คู่สัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจะตกลงจำนวนและราคาของสินค้าอ้างอิง (Underlying Asset) เพื่อส่งมอบสินค้า ณ วันที่ได้ระบุในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วยราคาและจำนวนสินค้าที่ตกลงกันเอาไว้ แม้ว่าราคาของสินค้าอ้างอิงจะเปลี่ยนแปลงไปในวันที่ส่งมอบ
ตัวอย่างเช่น บริษัท GreedisGoods ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI กับ บริษัท B ที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน โดยกำหนดส่งมอบในอีก 3 เดือนข้างหน้าด้วยราคา 62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล ในขณะที่ปัจจุบันน้ำมันราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล
เมื่อครบกำหนดส่งมอบถ้าหากราคาน้ำมันดิบ WTI แพงขึ้นจริง สมมติว่าแพงขึ้นเป็น 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล บริษัท GreedisGoods ก็จะยังคงสามารถซื้อน้ำมันได้ในราคา 62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล ส่วน B ก็จะต้องขายให้ GreedisGoods ในราคานี้แม้ว่าราคาจริงจะเพิ่มขึ้นแล้ว
ดังนั้นหากพิจารณากลับไปถึงเหตุผลที่บริษัท GreedisGoods จะกับ B ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Oil Future มีดังนี้
- ฝ่าย GreedisGoods ที่เป็นผู้ซื้อน้ำมันคาดว่าในอีก 3 เดือนราคาน้ำมันจะแพงขึ้นกว่านี้อีกมาก
- ฝ่าย B ที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันคาดว่าในอีก 3 เดือนราคาน้ำมันจะถูกลงกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ
กลับกันหากราคาน้ำมันดิบ WTI ถูกลง สมมติว่าราคาน้ำมันลดลงเหลือ 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล เมื่อถึงเวลาส่งมอบตามที่กำหนดเอาไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัท GreedisGoods ก็จะต้องซื้อในราคา 62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล (แม้ว่าราคาจริงจะเหลือแค่ $45)
การเปลี่ยนมือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อและผู้ขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่จำเป็นที่จะต้องถือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวเอาไว้จนครบกำหนดแต่อย่างใด แต่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำตามสัญญาในตัวอย่างด้านบนจะเกิดขึ้นเมื่อถือสัญญาเอาไว้จนครบกำหนด
กล่าวคือ ผู้ซื้อและผู้ขายจะมีพันธะในการที่จะ “ต้องซื้อขาย” กันตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาก็ต่อเมื่อถือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเอาไว้จนครบกำหนด
ในส่วนนี้เองที่ทำให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแตกต่างจาก Forward Contract เนื่องจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะมีตัวกล่างเป็นตลาดซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในขณะที่ Forward เป็นการซื้อขายกันเองโดยตรงของคู่สัญญาในลักษณะของ Over-the-Counter (OTC)
สินทรัพย์อ้างอิงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สินทรัพย์อ้างอิงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เรียกว่า Underlying Asset โดย Underlying Asset ที่สามารถพบได้บ่อยในตลาด ได้แก่
- สัญญาซื้อขายหุ้นรายตัว (Single Stock Futures)
- สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures)
- สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า (Oil Futures) ที่อ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบในแต่ละตลาด ไม่ว่าจะเป็น Brent หรือ WTI
- สัญญาซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (Commodities Future) เช่น น้ำตาล ข้าวโพด ช็อกโกแลต น้ำ โลหะเงิน และทองแดง
- ดัชนีหุ้น (Index Futures) เช่น SET50 Future และ S&P 500 Futures
นอกจากนี้ ในตลาดใหญ่ ๆ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกาเรายังสามารถเห็นสินค้าอ้างอิงของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อาจไม่คุ้นเคย อย่างเช่น สัญญาการขนส่งสินค้า สภาพอากาศ ไปจนถึง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าพายุเฮอริเคน
การใช้ประโยชน์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือ เครื่องมือบริหารความเสี่ยงในการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาที่ไม่แน่นอนของสินค้าอ้างอิง (Underlying Asset) ในอนาคต หากคุณเป็นบริษัทผู้ผลิตคุณจะต้องการที่จะได้วัตถุดิบมาในราคาที่แน่นอน การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคือสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้วัตถุดิบมาในราคาที่แน่นอนไม่แกว่งไปตามความไม่แน่นอนของราคาตลาด
ในทางกลับกัน หากคุณเป็นผู้ผลิตสินค้าวัตถุดิบ อย่างเช่นสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ขายสินค้าให้กับบริษัทผู้ผลิต สัญญาซื้อขายล่วงหน้าก็จะช่วยทำให้รายได้ของผู้ผลิตวัตถุดิบมีความสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบด้านรายได้
จากตัวอย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้างต้นของ จะเห็นว่าการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระหว่าง GreedisGoods กับ B ช่วยประกันราคาน้ำมันดิบที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตให้แต่ละฝ่าย
นอกจากนี้ ในส่วนของนักลงทุนก็อาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตได้เช่นกัน ด้วยการเปิดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าควบคู่ไปกับสินทรัพย์ที่ลงทุน