B2B คืออะไร?
B2B คือ ชื่อย่อของ Business to Business หรือการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ เป็นการที่ธุรกิจหนึ่งขายสินค้าให้กับอีกธุรกิจหนึ่ง ส่วนมากสินค้าที่ธุรกิจประเภท Business to Business (B2B) จะขายกันมักจะเป็นสินค้าที่เป็นวัตถุดิบ ส่วนประกอบของสินค้าบางอย่างในลักษณะของ Supplier
ตัวอย่างเช่น กรณีของบริษัท Apple ที่ใช้ชิ้นส่วนจากบริษัท Intel ไม่ว่าจะเป็น CPU ของ Macbook หลายรุ่นหรือส่วนประกอบบางชิ้นของ iPhone
โดยธุรกิจในรูปแบบ B2B หรือ Business to Business เป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ อย่างล่าสุด Microsoft ที่ได้กลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่บริษัท Microsoft ที่หันไปจับลูกค้าระดับองค์กรแทน
ข้อดีของธุรกิจแบบ B2B
มาดูกันว่าทำไมธุรกิจแบบ Business to Business หรือ B2B ถึงน่าสนใจ จนหลายองค์กรเริ่มหันมาจับกลุ่มลูกค้าระดับ Business แทนการขายให้กับลูกค้ารายย่อยในลักษะ Business to Customer (B2C)
สัญญาระยะยาว
การทำธุรกิจระหว่างธุรกิจกับธุรกิจหรือ B2B มักจะเป็นการทำสัญญาระยะยาว โดยเฉพาะธุรกิจระหว่างผู้ผลิตสินค้ากับ Supplier (ผู้จัดหาวัตถุดิบ)
ตัวอย่างเช่น การขาย Software จัดการบัญชี ที่นอกจากขาย Software แล้วยังรวมไปถึงบริการหลังการขายอย่างการอัพเดทและการดูแลระบบจากผู้ขายต่อไปอีกด้วย
ซึ่งการทำสัญญาระยะยาวมีข้อดีอยู่ที่การทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าผู้ขายจะสามารถขายได้อย่างสม่ำเสมอ ส่วนผู้ซื้อก็จะได้สินค้าหรือวัตถุดิบอย่างแน่นอนและต่อเนื่อง
ขายได้จำนวนมากต่อครั้ง
โดยส่วนมากการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ อย่างการขายสินค้าของ Supplier ให้กับผู้ผลิต จำนวนการสั่งซื้อจะเป็นการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
ผลที่ตามมาในกรณีของการขายสินค้าเป็นจำนวนมากก็คือ Economies of Scale หรือ การประหยัดต่อขนาด ที่จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าลดลงอย่างมากจากการผลิตครั้งละมากๆ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการขายไม่ออกต่ำตามที่ได้อธิบายในหัวข้อก่อนหน้านี้ว่ามักจะมีปริมาณการสั่งซื้อต่อช่วงระยะเวลาที่ชัดเจน (ต้องการอย่างน้อย xxx ชิ้นต่อเดือนแน่ๆ)
นอกจากนี้ ในกรณีที่ไม่ได้เป็นการสั่งซื้อครั้งมากๆ อย่างกรณีที่เป็นสินค้าชิ้นเดียว ในธุรกิจ B2B หรือ Business to Business ก็มักจะเป็นการขายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และราคาต่อหน่วยสูงมากอยู่ดี
ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายต่ำ
จากการที่ธุรกิจแบบ B2B เป็นการขายสินค้าให้กับธุรกิจด้วยกัน ทำให้โดยมากการทำให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์หรือสนใจในสินค้าหรือบริการมักจะเป็นการใช้พนักงานขายเข้าไปขายกับธุรกิจโดยตรง
อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องลงโฆษณาในสื่อหลักที่มีราคาสูงเหมือนกับการเข้าถึงลูกค้าระดับบุคคลเหมือนกับธุรกิจในลักษณะของ B2C ที่ขายให้กับผู้บริโภคทั่วไป