FEFO คืออะไร?
FEFO คือ แนวคิดการบริหารสินค้าคงคลังแบบหมดอายุก่อนออกก่อน หรือ First Expired First Out โดยสินค้าที่มีวันหมดอายุก่อนจะถูกนำไปขายหรือนำไปผลิตในกระบวนการผลิตลำดับถัดไปก่อน
โดยแนวคิดแบบ First Expired First Out หรือ FEFO คือวิธีที่มักจะถูกใช้กับสินค้าที่เน่าเสียง่าย เพื่อลดความสูญเปล่าจากการที่สินค้าหรือวัตถุดิบดังกล่าวหมดอายุ มีอายุการใช้งานสั้น อย่างเช่น ผักที่เชฟมักจะนำผักที่มีวันหมดอายุก่อนมาประกอบอาหารก่อน
ซึ่งการที่การใช้ FEFO ช่วยจัดการสินค้าที่มีโอกาสหมดอายุได้ดี ทำให้ธุรกิจจะได้รับผลดีลำดับถัดมาคือความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งนำไปสู่โอกาสในการที่ธุรกิจจะต้องรับผิดต่อสินค้าที่เสียหายจากการหมดอายุที่ลดลงอย่างมาก
ตัวอย่างวิธี First Expired First Out
ตัวอย่างของวิธีการนำ FEFO มาใช้ที่ง่ายที่สุด คือ การนำ FEFO มาใช้ในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังของร้านขายของชำ สมมติว่าร้านขายของชำได้รับการจัดส่งส้มที่มีอายุการเก็บรักษาห 1 สัปดาห์ โดยทางร้านได้รับการจัดส่งส้ม 100 ลูกในวันจันทร์ และจัดส่งส้มอีก 50 ลูกในวันพุธ
ในการบริหารคลังสินค้าแบบ FEFO ร้านขายของชำจะขายส้มที่ได้รับมาจากการจัดส่งเมื่อวันจันทร์ก่อน จากนั้นจึงขายส้มที่เหลือที่ได้รับการจัดส่งเมื่อวันพุธเป็นลำดับถัดไป
ด้วยวิธีการนี้ร้านขายของชำจะมั่นใจได้ว่าจะขายสินค้าเน่าเสียง่ายที่หมดอายุก่อน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องทิ้งสินค้าที่เน่าเสียหรือหมดอายุ
ข้อได้เปรียบของ FEFO
ลดความสูญเปล่าจากสินค้าคงคลังที่เกิดจากสินค้าเน่าเสียหรือหมดอายุ – การขายหรือใช้สินค้าที่หมดอายุก่อน FEFO ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ขายหรือใช้แล้วยังคงสดและมีคุณภาพดี ทำให้ FEFO มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการจัดการสินค้าที่เน่าเสียง่าย เช่น อาหารและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
สามารถช่วยปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าได้ – เนื่องจากการใช้วิธี FEFO ที่มีการตรวจสอบวันหมดอายุของสินค้าเป็นกิจวัตร ทำให้สามารถแน่ใจได้ว่าสินค้าที่ขายหรือวัตถุดิบที่นำมาผลิตยังคงสดใหม่และมีคุณภาพดีอยู่ ทำให้สามารถช่วยปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าได้จากการที่ลูกค้าไม่พบของเสีย และโอกาสที่จะต้องรับผิดชอบลูกค้าในปัญหาดังกล่าวที่
สะท้อนสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง – ตามสามัญสำนึกปกติสินค้าที่หมดอายุก่อนควรจะเป็นสินค้าที่ต้องรีบนำมาใช้ก่อนอยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการไปปฏิบัติงานจริง
ข้อจำกัดของ FEFO
นำไปใช้จริงได้ยากในบางกรณี – FEFO อาจนำไปใช้ได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีสินค้าและวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่สินค้าคงคลังเหล่านั้นที่มีวันหมดอายุที่แตกต่างกัน (หรือต่างกันมาก) รวมถึงการที่ต้องคอยตรวจสอบวันหมดอายุอยู่ตลอดเวลาทำให้กระบวนการทำงานซับซ้อนยิ่งขึ้น และอาจมีต้นทุนแรงงานเพิ่มเติม
อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าคงคลังบางประเภท – จะเห็นว่าโดยลักษณะของ FEFO อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าคงคลังบางประเภท อย่างเช่น สินค้าประเภทที่มีอายุการเก็บรักษานาน
ความสามารถในการจัดการสินค้าคงคลังจำกัด – เนื่องจากวิธีการทำงานของ FEFO คือการขายหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวันหมดอายุเร็วที่สุดก่อนเสมอ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจำเป็นต้องติดตามวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในสินค้าคงคลังของตน ทำให้ FEFO อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจที่ดำเนินการในอุตสาหกรรมที่เคลื่อนไหวเร็วหรือมีความต้องการสูง ซึ่งการสต๊อกสินค้าอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายและความพึงพอใจของลูกค้า
จะเห็นว่าโดยรวมแล้วข้อจำกัดของ FEFO คือความยืดหยุ่นในการจัดการสินค้าคงคลังไม่เท่ากับ FIFO (First In, First Out) และ LIFO (Last In, First Out) นั่นเอง