หน้าแรก » การตลาด » Private Label คืออะไร? ทำไมต้องมี Private Label

Private Label คืออะไร? ทำไมต้องมี Private Label

บทความโดย safesiri
Private Label คือ สินค้า Private Brand คือ อะไร

Private Label คือ แบรนด์สินค้าของห้างสรรพสินค้าเอง ที่ห้างสรรพสินค้า (หรือร้านค้า) จ้างผลิตแบบ OEM เพื่อนำสินค้าดังกล่าวมาวางขายในห้างสรรพสินค้าของตนเอง โดย Private Brand จะแบรนด์ที่สร้างขึ้นมาใหม่โดยอาจจะใกล้เคียงหรือไม่ใกล้เคียงกับแบรนด์ของห้าง

โดยความแตกต่างของ Private Label หรือ Private Brand จะต่างจาก House Brand ตรงที่จะไม่ได้ใช้ตราสินค้าของห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้ามาติดสินค้าโดยตรงเพื่อขายเหมือนกับสินค้า House Brand แต่จะเป็นการใช้ชื่อแบรนด์อื่นที่สร้างขึ้นมาใหม่สำหรับ Private Label โดยเฉพาะ

ตัวอย่างเช่น ร้านขายเครื่องสำอาง ABC-Metic จ้างบริษัทผลิตสินค้า OEM โดยเป็นการผลิตแชมพูเพื่อนำมาวางขายคู่กับแชมพูที่มีอยู่แล้วในตลาด แต่ขายแชมพูดังกล่าวภายใต้แบรนด์ XYZ แทนที่จะใช้แบรนด์ ABC-Metic ที่เป็นชื่อร้าน

ในกรณีที่ร้าน ABC-Metic ขายแชมพูดังกล่าวในชื่อ ABC-Metic เหมือนกับชื่อร้าน กรณีนี้เราจะเรียกว่าเป็นสินค้าประเภท House Brand ไม่ใช้ Private Brand หรือ Private Label

สำหรับตัวอย่างของแบรนด์ที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็น Private Label ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นอยู่บ้าง ได้แก่ JustBuy ของ Robinson และคุ้มค่าของ Tesco Lotus

ด้วยความที่ Private Label กับ House Brand มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยทำให้ตามปกติ Private Label มักจะถูกเรียกแบบเหมารวมไปว่า House Brand หรือ Own Brand แทน

ประโยชน์ของสินค้า Private Label

เหตุผลที่แบรนด์ห้างหรือร้านค้าปลีกหลายแบรนด์ต้องทำ Private Label ขึ้นมาเพื่อวางขายไปพร้อมกับสินค้าที่มีอยู่แล้วบนชั้นขายสินค้าของห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ ได้แก่:

สินคา Private Label มีต้นทุนต่ำ จากการที่แบรนด์ไม่ได้ตั้งโรงงานขึ้นมาผลิตสินค้าแต่ละชนิดเอง แต่เป็นการจ้างผลิตที่เป็นการสั่งผลิตครั้งละมาก ๆ อีกทั้งยังไม่มีต้นทุนในการโฆษณาหรือต้นทุนในการนำสินค้าขึ้นวางบนชั้นขายสินค้า ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของ Private Label ต่ำกว่าสินค้าแบบเดียวกันมาก

กำไรต่อหน่วยที่สูงกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำจากการไม่มีต้นทุนในการโฆษณาหรือต้นทุนในการวางขายสินค้าส่งผลให้ Private Label มีกำไรต่อหน่วยที่สูงกว่า แม้ว่าจะเป็นสินค้าของแบรนด์อื่นที่มีคุณสมบัติและวิธีการผลิตที่เหมือนกัน 100% ก็ตาม

ใช้ Private Label ทำกำไรทดแทน บางครั้งการนำสินค้าแบรนด์ที่ขายดีจากความนิยมมาตั้งอาจจะทำให้ร้านค้าหรือห้างได้ส่วนแบ่งกำไรที่น้อยลง แต่ก็ต้องนำมาวางขายเพื่อดึงดูดลูกค้า เพื่อที่จะไม่กลายเป็นร้านที่ไม่มีสินค้าที่ต้องการขายในสายตาผู้บริโภค ด้วยเหตุดังกล่าวห้างสรรพสินค้าหรือแบรนด์จึงใช้ Private Label เพื่อใช้ประโยชน์จากกำไรต่อหน่วยที่ต่ำและต้นทุนต่อหน่วยที่สูงกว่า

สร้างทางเลือกเพิ่มให้ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่นิยมสินค้าราคาถูก การตั้งราคาที่ต่ำกว่าและวางสินค้า Private Label ไว้ข้างสินค้าแบรนด์ทั่วไปในตลาด ทำให้ลูกค้าที่นิยมสินค้าราคาถูกที่มีคุณภาพพอใช้ได้เกิดทางเลือก ในขณะที่ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงกับแบรนด์ที่เน้นคุณภาพสูงกว่าและมีราคาแพงกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด