หน้าแรก » การตลาด » IMC คืออะไร? การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ทำอย่างไร

IMC คืออะไร? การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ทำอย่างไร

บทความโดย safesiri
IMC คือ Integrated Marketing Communication คือ การสื่อสาร การตลาดแบบบูรณาการ IMC Marketing คือ เครื่องมือ IMC ตัวอย่าง

IMC คือ การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (Integrated Marketing Communication) เป็นหลักการตลาดที่ใช้ช่องทางการสื่อสารการตลาดหลายรูปแบบร่วมกัน โดยที่ทุกช่องทางที่ใช้ในการสื่อสารการตลาดแบบ IMC จะให้ข้อมูลที่มีความสอดคล้องกัน

การสื่อสารทางการตลาดด้วย Integrated Marketing Communication หรือ IMC จะช่วยให้การสื่อสารทางการตลาดที่มีความสอดคล้องกันของข้อมูลที่สื่อสารออกไปในทุกช่องทางการตลาด ส่งผลให้ลูกค้าได้รับสาส์นที่ชัดเจนผ่านการเน้นย้ำ อีกทั้งยังดูน่าเชื่อถือมากกว่า

ในทางกลับกันการสื่อสารการตลาดที่ไม่สอดคล้องกันเหมือนกับ IMC ที่ต่างฝ่ายต่างสื่อสารเพื่อผลลัพธ์ที่แต่ละฝ่ายในองค์กรต้องการ แทนที่จะสื่อสารด้วยข้อความที่มีทิศทางเดียวกันและมีเป้าหมายอันเดียวกัน จะทำให้ประสิทธิภาพและความชัดเจนของสิ่งที่แบรนด์พยายามจะเน้นย้ำหรือสื่อสารลดลง รวมถึงอาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนไม่มั่นใจว่าแบรนด์ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ ฟังแล้วอึดอัด ไปจนถึงรู้สึกรำคาญ

สำหรับเครื่องมือสำรหับการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ IMC ก็คือเครื่องมือการสื่อสารทางการตลาดหรือ Promotion จาก Marketing Mix 4Ps ซึ่งประกอบด้วย 5 เครื่องมือการสื่อสารทางการตลาดที่สามารถแยกย่อยได้อีกหลายหลายวิธี ได้แก่

  1. Sales Promotion คือการส่งเสริมการขายด้วยกิจกรรมทางการตลาด
  2. Advertising คือการโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ
  3. Personal Selling คือการใช้พนักงานขาย ขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง
  4. Public Relation คือการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของแบรนด์ให้กับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
  5. Direct Marketing คือการทำการตลาดเพื่อขายสินค้าโดยตรงกับลูกค้า

กล่าวคือ Integrated Marketing Communication หรือ IMC คือการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการโดยใช้เครื่องมือสื่อสารทางการตลาดเหล่านี้ร่วมกัน โดยสื่อสารข้อมูลทางการตลาดออกไปอย่างมีความสอดคล้องกันกันและมีจุดประสงค์การสื่อสารเดียวกันในทุกช่องทาง เพื่อความชัดเจนในการสื่อสาร

Sales Promotion

Sales Promotion คือ ส่งเสริมการขายด้วยการด้วยกิจกรรมทางการตลาด เป็นโปรโมชั่นหรือวิธีส่งเสริมการตลาดที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น การลด แลก แจก แถม คูปอง และการทดลองใช้ฟรีด้วยการแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

สำหรับประโยชน์ของ Sales Promotion คือการที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าไปทดลองได้ง่ายขึ้น และถ้าหากลูกค้าพึงพอใจในสินค้าก็จะมีโอกาสที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

อย่างไรก็ตาม Sales Promotion จะเป็นเพียงกิจกรรมทางการตลาดในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากการทำ Sales Promotion จะส่งผลให้กำไรต่อหน่วยลดลง

Advertising

Advertising คือ การโฆษณา เป็นอีกหนึ่งการสื่อสารทางการตลาดที่พบได้บ่อยที่สุดเทียบเท่า Sales Promotion โดยประโยชน์ของการโฆษณาในการสื่อสารทางการตลาดแบบ IMC คือการเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง Brand Awareness ที่ทำให้ลูกค้ารับรู้การมีตัวต้นของ Brand และรับรู้ถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์และบริการผ่านสื่อ ซึ่งเป็นประตูด่านแรกที่จะนำแบรนด์เข้าไปในใจของลูกค้า เพื่อนไไปสู่การหาข้อมูลและตัดสินใจซื้อสินค้า

สำหรับช่องทางในการโฆษณาปัจจุสามารถทำได้มากมายหลายวิธี โดยอาจแบ่งเป็นช่องทางการโฆษณา Online และ Offline ซึ่งจะสามารถแสดงวิธีการโฆษณา (Advertising) ออกมาได้ ดังนี้

  • โฆษณาออนไลน์ (Online) คือการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น Google Adsense, Facebook, Taboola, Twitter, TikTok, Instagram, YouTube, การซื้อโฆษณาจาก KOLs, และการซื้อ Banner บนเว็บไซต์ เป็นต้น
  • โฆษณาออฟไลน์ (Offline) คือการโฆษณาด้วยช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ช่องทางออนไลน์ ตัวอย่างเช่น โฆษณาบน Billboard, โฆษณาบนรถไฟฟ้าและสถานีรถไฟฟ้า, โษณาโทรทัศน์, หนังสือพิมพ์, คลื่นวิทยุ และนิตยสาร เป็นต้น

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่นักการตลาดควรคำนึงถึงในการเลือกช่องทางการลงโฆษณาเพื่อการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) คือการเลือกช่องทางการโฆษณาที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย

Personal Selling

Personal Selling คือ การส่งเสริมการตลาดด้วยพนักงานขายเป็นการใช้พนักงานติดต่อกับลูกค้าโดยตรงเพื่อให้ข้อมูลสินค้าที่ขาย อย่างเช่น การโทรหาลูกค้าโดยตรงเพื่อขายประกัน หรือการที่พนักงานขายไปที่บริษัทเพื่อเสนอขายอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ เป็นต้น

สำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องใช้การสื่อสารทางการตลาดด้วยวิธี Personal Selling จะเป็นสินค้าที่มีลักษณะ ดังนี้

  • เป็นสินค้าที่ต้องให้ข้อมูลกับลูกค้า และต้องตอบคำถามของลูกค้า
  • เป็นสินค้าประเภทที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้สินค้านั้น ๆ
  • เป็นสินค้าเฉพาะทางที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากให้ลูกค้าได้ตัดสินใจ
  • เป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยที่สูง

ซึ่งประโยชน์ของการใช้พนักงานขาย (Personal Selling) จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนั่นเอง เนื่องจากสามารถสอบถามได้ทันทีที่มีข้อสงสัยที่อาจขัดขวางการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า

Public Relation

Public Relation หรือ PR คือ การประชาสัมพันธ์ เป็นช่องทางสื่อสารการตลาดที่ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเสนอขายสินค้าเป็นหลัก แต่การประชาสัมพันธ์ (Public Relation) จะเป็นการมุ่งไปที่การประชาสัมพันธ์เพื่อการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร

ตัวอย่างเช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรมบางอย่าง การตอบคำถามที่สังคมมีการตั้งคำถามมาที่แบรนด์ และการที่บริษัทออกมาบอกว่าผลิตด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เป็นต้น

ทั้งนี้ การประชาสัมพันธ์เป็นรูปแบบของการส่งเสริมการตลาดที่จะไม่ได้รับผลที่ชัดเจนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ผลที่ได้จากการประชาสัมพันธ์คือภาพลักษณ์ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าในกระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ที่ออกมาจากการประชาสัมพันธ์ก็ควรจะเป็นภาพลักษณ์ในทิศทางเดียวกันกับการสื่อสารทางการตลาดช่องทางอื่น ๆ ถ้าหากแบรนด์ที่เน้นภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ การประชาสัมพันธ์ก็ควรออกมาอย่างน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับการสื่อสารทางการตลาดอื่น

Direct Marketing

Direct Marketing คือ การขายสินค้าโดยตรงกับลูกค้า (โดยตัดตัวกลางอย่างการค้าปลีกออกไป) ซึ่งการ Direct Marketing มักจะเป็นการขายสินค้าที่ลูกค้ามีข้อมูลอยู่แล้ว โดยข้อมูลของลูกค้าอาจได้มาจากการที่ลูกค้าให้ช่องทางการติดต่อเอาไว้เมื่อครั้งที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถามก่อนหน้านี้ เมื่อแบรนด์ต้องการขายสินค้าแบรนด์ก็จะติดต่อไปหาลูกค้าทันทีที่มีสินค้าพร้อมที่จะขาย

ตัวอย่างเช่น โชว์รูมรถหรูมีรายชื่อลูกค้าที่ลงชื่อรับข้อมูลเมื่อมี Supercar รุ่นใหม่เข้ามา และเมื่อมีรถ Supercar รุ่นใหม่หรือปีใหม่เข้ามา โชว์รูมก็จะติดต่อไปยังลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลและเสนอขายสินค้าให้กับลูกค้าพร้อมข้อเสนอได้ทันที

ประโยชน์ของการสื่อการตลาดแบบ Direct Marketing จะเป็นการย้ำเตือนความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มที่ต้องการจะซื้อสินค้าอยู่แล้ว อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ไม่จำเป็นที่จะต้องสื่อสารการตลาดไปในวงกว้างเพื่อเข้าหาลูกค้า

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ปรับตั้งค่าปฏิเสธ Cookies ยินยอม ดูรายละเอียด